
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวันศุกร์
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศประจำวันที่ 21 ต.ค.59
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับลง เมื่อวันศุกร์ (21 ต.ค.) หลังจากบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ของสหรัฐเปิดเผยผลประกอบการที่ผันผวน โดยบริษัทแมคโดนัลด์ คอร์ป เปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2559 ออกมาดีกว่าการคาดการณ์ของตลาด ขณะที่เจเนอรัล อิเลคทริค (GE) เปิดเผยรายได้ที่ต่ำกว่าคาด และยังได้ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการตลอดปี 2559 นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากนายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาซานฟรานซิสโก ได้ออกมาสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,145.71 จุด ลดลง 16.64 จุด หรือ -0.09% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,257.40 จุด เพิ่มขึ้น 15.57 จุด หรือ +0.30% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,141.16 จุด ลดลง 0.18 จุด หรือ -0.01%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดเกือบทรงตัว เมื่อวันศุกร์ (21 ต.ค.) หลังจากบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ได้เปิดเผยผลประกอบการที่ผันผวน นอกจากนี้ นักลงทุนยังเทขายทำกำไรหลังจากตลาดปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 3 วันทำการก่อนหน้านี้ อันเป็นผลมาจากการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน และหลังจากประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณขยายระยะเวลาการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ระดับ 344.29 จุด ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากวันพฤหัสบดี
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,536.07 จุด ลดลง 4.05 จุด หรือ -0.09% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,710.73 จุด เพิ่มขึ้น 9.34 จุด หรือ +0.09% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,020.47 จุด ลดลง 6.43 จุด หรือ -0.09%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดขยับลง เมื่อวันศุกร์ (21 ต.ค.) หลังจากมีรายงานว่า บริติช อเมริกัน โทแบคโค เสนอซื้อหุ้นของเรย์โนลด์ อเมริกัน อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทยาสูบสหรัฐ โดยข่าวดังกล่าวได้ฉุดหุ้นบริติช อเมริกัน โทแบคโค ดิ่งลงอย่างหนัก
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,020.47 จุด ลดลง 6.43 จุด หรือ -0.09%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวก เมื่อวันศุกร์ (21 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคาดหวังว่า ประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่จะสามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการปรับลดกำลังการผลิต โดยล่าสุดนายอเล็กซานเดอร์ โนวัค รัฐมนตรีพลังงานของรัสเซียได้ออกมาสนับสนุนข้อตกลงการปรับลดกำลังการผลิต เพื่อรักษาเสถียรภาพในตลาดน้ำมัน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.ขยับขึ้น 22 เซนต์ หรือ 0.14% ปิดที่ 50.85 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 40 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 51.78 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้น เมื่อวันศุกร์ (21 ต.ค.) เนื่องจากการร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์กได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย อย่างไรก็ตาม สัญญาทองคำขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าได้สร้างแรงกดดันต่อบรรยากาศการซื้อขายในตลาด
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 20 เซนต์ หรือ 0.02% ปิดที่ 1,267.70 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยตลอดทั้งสัปดาห์ สัญญาทองคำปรับตัวขึ้นทั้งสิ้น 1%
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 5.6 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 17.493 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 3.10 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 932.30 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 12.10 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ 620.75 ดอลลาร์/ออนซ์
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น เมื่อเทียบกับยูโรและสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (21 ต.ค.) โดยได้รับแรงหนุนจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ออกมาสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้ ความแข็งแกร่งของข้อมูลตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่หนุนสกุลเงินดอลลาร์เช่นกัน
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ 1.0827 ดอลลาร์สหรัฐ จากวันพฤหัสบดีที่ระดับ 1.0927 ดอลลาร์สหรัฐ เงินปอนด์ร่วงลงสู่ระดับ 1.2226 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2251 ดอลลาร์สหรัฐ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7596 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7629 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 103.85 เยน จากระดับ 103.98 เยน และแข็งค่าขึ่นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9948 ฟรังค์ จากระดับ 0.9930 ฟรังค์