
กลุ่มรับเหมาฯ แรงยกกลุ่ม! ขานรับความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้า-รถไฟทางคู่ 3 เส้นทาง
กลุ่มรับเหมาฯ บวกแรงยกกลุ่ม! ขานรับความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้า-รถไฟทางคู่ 3 เส้นทาง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นบริษัท ซีฟโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ SEAFCO ณ เวลา 11.14น. ราคาอยู่ที่ 10.70บาท บวก 0.30 บาท หรือ 2.88% สูงสุดที่ 10.80 บาท ต่ำสุดที่ 10.50 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 18.16 ล้านบาท
ขณะที่ราคาหุ้นบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD ราคาอยู่ที่ 5.10บาท บวก 0.14 บาท หรือ 2.82% สูงสุดที่ 5.15 บาท ต่ำสุดที่ 5 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 110.18 ล้านบาท
ด้านราคาหุ้นบริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ UNIQ ราคาอยู่ที่ 17.50บาท บวก 0.50บาท หรือ 2.94% สูงสุดที่ 17.60 บาท ต่ำสุดที่ 17.20 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 125.61 ล้านบาท
นอกจากนี้ราคาหุ้น บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC ราคาอยู่ที่ 25.75บาท บวก 0.25 บาท หรือ 0.98% สูงสุดที่ 26 บาท ต่ำสุดที่ 25.50 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 72.59 ล้านบาท
นอกจากนี้ราคาหุ้น บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK ราคาอยู่ที่ 31 บาท บวก 1.50 บาท หรือ 5.08% สูงสุดที่ 31 บาท ต่ำสุดที่ 30 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 603.33 ล้านบาท
โดยราคาหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างปรับตัวขึ้นทั้งกลุ่ม เนื่องจากมีแนวโน้มที่การประมูลงานก่อสร้างขนาดใหญ่มีความคืบหน้า หลังวานนี้มีการเปิดยื่นซองประมูล นอกจากนี้ยังมีอีก 2 โครงการใหญ่ที่จะเปิดให้ยื่นซองวันที่ 7 พ.ย.นี้
ด้าน บล.กสิกรไทย ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ความคืบหน้าการประมูลงานก่อสร้างขนาดใหญ่ หนุนการเก็งกำไรในกลุ่มรับเหมาฯ วานนี้มีการยื่นซองประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ระยะทาง 20 กิโลเมตร (กม.) มูลค่า 9 หมื่นล้านบาท โดยยังมีอีก 2 โครงการใหญ่ที่ต่อคิวรอยื่นซองในวันที่ 7 พ.ย. คือ สายสีชมพู แคราย-มีนบุรี ระยะทาง 36 กม. มูลค่า 2.7 หมื่นล้านบาท และสายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง ระยะทาง 30 กม. มูลค่า 3.2 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้ทั้ง 3 โครงการคาดว่าจะมีการเปิดซองราคาและรู้ผลผู้ชนะประมูลภายในไตรมาส 1 ปี 2560
สำหรับโดยโครงการ รถไฟฟ้าสายสีส้มเห็นว่าบมจ.ช.การช่าง (CK) และบมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD) มีโอกาสชนะประมูลมากที่สุด เนื่องจากโครงการดังกล่าวต้องเป็นงานใต้ดินยาวกว่า 17 กม. ซึ่ง CK และ ITD เคยมีประสบการณ์ในการก่อสร้างอุโมงค์ทางวิ่งใต้ดินมาก่อน ส่วนสายสีเหลืองและสีชมพู จะเป็นการเปิดประมูลร่วมลงทุนกับภาครัฐ PPP โดยจะเป็นประมูลรวมทั้งงานก่อสร้างและงานเดินระบบ โดย CK จับมือกับบมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) คาดว่ามีโอกาสชนะงานสีชมพู และบมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น (STEC) จับมือบมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) มีโอกาสชนะสายสีเหลือง อย่างไรก็ตามยังต้องจับตา ITD ที่จับมือกับ SK Engineering & Construction (จากเกาหลี) จะสามารถสอดแทรกเข้ามาคว้างานทั้ง 2 เส้นนี้ได้หรือไม่
นอกจากนั้นโครงการอื่นๆ เช่น รถไฟทางคู่ และมอเตอร์เวย์ อีกกว่า 8 โครงการมูลค่ารวมกว่า 1 แสนล้านบาท ทั้งหมดก็น่าจะเริ่มเห็นความคืบหน้าของการประมูล ถือเป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มรับเหมาฯ มองเป็นช่วงเวลาในการเข้าซื้อสะสมเพื่อเก็งกำไร กลุ่มรับเหมาฯขนาดใหญ่ CK ,STEC ,บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (UNIQ) รับเหมาฯขนาดเล็กบมจ.เนาวรัตน์พัฒนาการ (NWR) ,บมจ.คริสเตียนีและนีลเส็น (ไทย) (CNT) และรับเหมาฯฐานราก บมจ.ซีฟโก้ (SEAFCO),บมจ.ไพลอน (PYLON) โดยให้ CK STEC เป็นตัวเด่น
ด้าน บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ว่า รถไฟฟ้าสายสีส้มส่วนตะวันออกเตรียมประมูล 6 ม.ค.60 แต่ในวันที่ 4 พ.ย. การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) จะประกาศผู้ผ่านด้านคุณสมบัติก่อน และผู้ผ่านด้านเทคนิควันที่ 1 ธ.ค. ก่อนจะเปิดซองเสนอราคา 6 ม.ค.60 ทั้งนี้ มีผู้ซื้อซองประกวดราคา 20 รายจากทั้งหมด 6 สัญญา มูลค่า 7.97 หมื่นล้านบาท ได้แก่ CKST (JV ของ CK และ STEC), ITD, UNIQ (จับมือกับบจ.ซันยองเอ็นจิเนียริ่ง), CNT (จับมือกับบจ.ไชน่าเรลเวย์คอนสตรัคชั่น) ส่วนวันนี้ครม.จะพิจารณาโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ 3 เส้นทาง