
ตลาดหุ้นทั่วโลกทรุดถ้วนหน้าเหตุกังวลการเมืองสหรัฐฯ ไม่แน่นอน
ตลาดหุ้นทั่วโลกทรุดถ้วนหน้าเหตุกังวลการเมืองสหรัฐฯ ไม่แน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นทั่วโลกส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงในเช้าวันนี้ตามทิศทางของตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดลบเมื่อคืน หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. นอกจากนั้นยังได้รับแรงกดดันจากความไม่แน่นอนทางการเมืองในสหรัฐ
โดยดัชนีดาวโจนส์ ล่าสุด ปรับตัวลง 77.46 จุด หรือ 0.43% ,SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,096.77 จุด ลดลง 5.96 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 22,708.55 จุด ลดลง 101.95 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,126.29 จุด ลดลง 12.75 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,974.93 จุด ลดลง 4.01 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,801.60 จุด ลดลง 5.54 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,658.19 จุด ลดลง 1.41 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ที่ 7,230.37 จุด ลดลง 22.03 จุด ด้านตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันวัฒนธรรมแห่งชาติ
อนึ่ง คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นอยู่ในช่วง 0.25-0.50% ในการประชุมเมื่อวานนี้ พร้อมกับส่งสัญญาณว่าอาจมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.59
นอกจากนี้ นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ รองผู้อำนวยการ ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบี เปิดเผยว่า ค่าเงินเปิดตลาดเช้าวันนี้ที่ระดับ 34.92 บาท แข็งค่าจากวานนี้ที่ระดับ 35.01 บาทต่อดอลาร์ หลังเฟดยัง “คง” อัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 0.25%-0.50% ในการประชุมเอคืนที่ผ่านมาแต่มีคณะกรรมการเฟดเหลือเพียง 2 ท่านเท่านั้นที่สนับสนุนการขึ้นดอกเบี้ยในครั้งนี้ (จากเดิมมี 3 ท่าน) ประกอบกับปัญหาการเมืองสหรัฐฯเริ่มกลับมาเป็นประเด็นที่ต้องจับตาอีกครั้งส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง
โดยวันนี้มองว่าค่าเงินบาทยังมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นได้อีกเล็กน้อยเนื่องจากตลาดกังวลกับปัญหาการเมืองมากขึ้นและย้ายเงินลงทุนกลับมาฝั่งเอเชีย มองกรอบวันนี้ที่ 34.85-34.95 บาทต่อดอลลาร์