TPIPP ส่งซิกปริมาณขายไฟQ2นิวไฮต่อเนื่อง เตรียมพร้อมร่วมประมูลงานเพิ่ม

TPIPP ส่งซิกปริมาณขายไฟ Q2 นิวไฮต่อเนื่อง เตรียมพร้อมร่วมประมูลงานเพิ่ม เผยโรงไฟฟ้าถ่านหิน-พลังงานเชื้อเพลิงขยะ 70 MW (TG7) ผ่าน EIA แล้ว คาดก่อสร้างแล้วเสร็จใน Q4/60 ส่วนโรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิงจากขยะ 70 MW (TG6)-พลังงานถ่านหิน 150 MW (TG8) คาดเข้าสู่กระบวนการพิจารณา EIA เร็วๆ นี้ และจะหนุนให้กำลังการผลติดติดตั้งรวมเป็น 440 MW จากปัจจุบันอยู่ที่ 150 MW


นายวรวิทย์ เลิศบุษศราคาม รองผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายโรงงาน บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TPIPP เปิดเผยว่า บริษัทสามารถผลิตไฟฟ้าเพื่อจำหน่ายในช่วงไตรมาส 2/60 เพิ่มขึ้นเป็นสถิติสูงสุดใหม่จากโรงไฟฟ้าทั้ง 4 โรง ซึ่งมีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 150 เมกะวัตต์ (MW) ประกอบด้วยโรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิงจากขยะจำนวน 2 โรงที่จำหน่ายไฟฟ้าให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ซึ่งได้รับส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้า (Adder) 3.50 บาท/หน่วย

รวมทั้งโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนทิ้งอีก 2 โรงที่จำหน่ายไฟฟ้าให้แก่ บริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) หรือ TPIPL ซึ่งเป็นบริษัทแม่เพื่อนำไปใช้ในกระบวนการผลิตปูนซีเมนต์สามารถผลิตไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับปริมาณจำหน่ายไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น มีปัจจัยมาจากการนำองค์ความรู้มาใช้ในการบริหารจัดการโรงไฟฟ้าได้เป็นอย่างดี และการลงทุนปรับปรุงประสิทธิภาพเครื่องจักร ส่งผลให้อัตราการใช้กำลังการผลิต (Utilization) ของโรงไฟฟ้าได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ รวมถึงรายได้ที่เพิ่มขึ้นหลังมีการปรับขึ้นค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (เอฟที) ในงวดเดือน พ.ค.-ส.ค.ที่ผ่านมา

“ในไตรมาส 2/60 TPIPP มีผลการผลิตไฟฟ้าได้สูงขึ้นกว่า 209 ล้านหน่วย ซึ่งเป็น New high อีกครั้งจากไตรมาสแรกที่จำหน่ายไฟฟ้าได้ 197 ล้านหน่วย โดยเกิดจากการปรับปรุงเครื่องจักรตามแผนงาน ซึ่งจะส่งผลดีต่อปริมาณการผลิตไฟฟ้าและการจำหน่ายไฟฟ้าที่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในเดือนต่อ ๆ ไป”นายวรวิทย์ กล่าว

สำหรับความคืบหน้าการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (รายงาน EIA) ของโรงไฟฟ้าถ่านหินและพลังงานเชื้อเพลิงขยะ 70 MW (TG7) ได้ผ่านการอนุมัติรายงาน EIA จากหน่วยงานภาครัฐเรียบร้อยแล้ว ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างโรงไฟฟ้า คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 4/60 นี้

ส่วนโรงไฟฟ้าอีก 2 โรง ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิงจากขยะ 70 MW (TG6) ที่มีแผนนำไปรวมกับโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนทิ้ง 30 MW (TG4) รวม 100 MW เพื่อจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่กฟผ. และโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหิน 150 MW (TG8) ที่จะจำหน่ายไฟฟ้าให้กับ TPIPL นั้น บริษัทได้เพิ่มเติมข้อมูลในรายงาน EIA ตามที่ได้รับแจ้งจากการพิจารณาในครั้งแรก

โดยคาดว่าจะเข้าสู่กระบวนการพิจารณาอนุมัติจากหน่วยงานภาครัฐได้ในเร็วๆ นี้ และหากได้รับการอนุมัติก็จะส่งผลให้บริษัทสามารถผลิตไฟฟ้าเพื่อจำหน่ายเชิงพาณิชย์ (COD) ได้เร็วกว่ากำหนดเดิมในไตรมาส 4 ปีนี้ ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทมีกำลังการผลิตติดตั้งรวมเพิ่มขึ้นเป็น 440 MW จากปัจจุบันอยู่ที่ 150 MW

ทั้งนี้ โรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงจากขยะ 60 MW ของบริษัทได้รับรางวัลดีเด่น จากการประกวด Thailand  Energy Awards 2017 และเป็นตัวแทนประเทศไทย เข้าร่วมการประกวด Asian Energy Awards 2017 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ สำหรับการขยายโครงการในอนาคต

ขณะเดียวกันบริษัทอยู่ระหว่างกำลังศึกษาข้อมูลและเตรียมความพร้อมในการเข้าร่วมเสนอขายไฟฟ้าแบบ Hybrid renewable ที่มีการประกาศรับซื้อ 300 MW โครงการโรงไฟฟ้าขยะของกรุงเทพฯ ที่ อ่อนนุช-หนองแขม รวม 40 MW และโครงการโรงไฟฟ้าขยะ SPP ที่จะรับซื้อเพิ่ม ซึ่งคาดว่าภาครัฐจะเริ่มประกาศรับซื้อประมาณปลายปีนี้

Back to top button