สรุปภาวะตลาดต่างประเทศประจำวันที่ 15 มิ.ย. 2561

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศประจำวันที่ 15 มิ.ย. 2561


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อวันศุกร์ (15 มิ.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากรัฐบาลสหรัฐประกาศบัญชีรายการสินค้านำเข้าจากจีนที่จะถูกเรียกเก็บภาษี 25% ขณะที่รัฐบาลจีนก็ได้ออกมาตรการตอบโต้ในลักษณะเดียวกัน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,090.48 จุด ลดลง 84.83 จุด หรือ -0.34% ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,779.66 จุด ลดลง 2.83 จุด หรือ -0.10% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,746.38 จุด ลดลง 14.66 จุด หรือ -0.19%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อวันศุกร์ (15 มิ.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากรัฐบาลสหรัฐประกาศบัญชีรายการสินค้านำเข้าจากจีนที่จะถูกเรียกเก็บภาษี 25% ขณะที่รัฐบาลจีนก็ได้ออกมาตรการตอบโต้โดยใช้มาตรการในลักษณะเดียวกัน

ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 1% ปิดที่ 389.13 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,010.55 จุด ลดลง 96.55 จุด หรือ -0.74% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,501.88 จุด ลดลง 26.58 จุด หรือ -0.48% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,633.91 จุด ลดลง 131.88 จุด หรือ -1.70%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันศุกร์ (15 มิ.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากรัฐบาลสหรัฐประกาศบัญชีรายการสินค้านำเข้าจากจีนที่จะถูกเรียกเก็บภาษี 25% ขณะที่รัฐบาลจีนก็ได้ออกมาตรการตอบโต้ในลักษณะเดียวกัน

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,633.91 จุด ลดลง 131.88 จุด หรือ -1.70%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 2% เมื่อวันศุกร์ (15 มิ.ย.) ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ดิ่งลงกว่า 3% โดยได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปก อาจตัดสินใจเพิ่มกำลังการผลิต ในการประชุมสัปดาห์หน้า

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. ร่วงลง 1.83 ดอลลาร์ หรือ 2.7% ปิดที่ 65.06 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 2 พ.ค.ปีนี้ และตลอดทั้งสัปดาห์ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลงราว 4%

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนส.ค. ดิ่งลง 2.50 ดอลลาร์ หรือ 3.3% ปิดที่ 73.44 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 6 มิ.ย.ปีนี้ และตลอดทั้งสัปดาห์ สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวลงราว 1%

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อวันศุกร์ (15 มิ.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินบางสกุล ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนอย่างใกล้ชิด หลังจากรัฐบาลสหรัฐเปิดเผยบัญชีรายการสินค้าจีนที่จะถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าในอัตรา 25%

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ร่วงลง 29.8 ดอลลาร์ หรือ 2.28% ปิดที่ 1,278.5 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2560 ส่วนตลอดทั้งสัปดาห์ สัญญาทองคำปรับตัวลงราว 1.9%

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 78.2 เซนต์ หรือ 4.53% ปิดที่ 16.48 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ร่วงลง 23.1 ดอลลาร์ หรือ 2.54% ปิดที่ 887.8 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ดิ่งลง 24.80 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 981.80 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินปอนด์และดอลลาร์ออสเตรเลีย ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (15 มิ.ย.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยนและฟรังก์สวิส เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

เงินปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ที่ระดับ 1.3280 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3282 ดอลลาร์ ขณะที่ดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 0.7450 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7485 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ที่ระดับ 1.1606 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1593 ดอลลาร์

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 110.57 เยน จากระดับ 110.58 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9962 ฟรังก์ จากระดับ 0.9964 ฟรังก์

Back to top button