เปิดโผ 7 บจ.โดนตลท.จับแขวนป้าย “C” เหตุส่วนผู้ถือหุ้นต่ำกว่า 50%

“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการรวบรวมบจ.ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ประกาศให้ขึ้นเครื่องหมาย “C” พบว่า ล่าสุดมีทั้งสิ้น 7 บจ. ประกอบด้วย MPIC, NEP, NOK, NBC, NEWS, PE และ TSI ขึ้นเครื่องหมาย C เข้าเกณฑ์ส่วนของผู้ถือหุ้นต่ำกว่า 50% ของทุนชำระแล้ว

โดย บริษัท เอ็ม พิคเจอร์ส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ MPIC จากงบการเงินไตรมาส 2/61 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิ.ย.2561 ในส่วนของผู้ถือหุ้นต่ำกว่า 50% ของทุนชำระแล้ว โดยมีส่วนของผู้ถือหุ้น 479.58 ล้านบาท ขณะที่ทุนจดทะเบียน 1,313 ล้านบาท (งบสิ้นสุด 30 มิ.ย. 2561)

ส่วน บริษัท เอ็นอีพี อสังหาริมทรัพย์ และอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ NEP จากงบการเงินไตรมาส 2/61 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิ.ย.2561 ในส่วนของผู้ถือหุ้นต่ำกว่า 50% ของทุนชำระแล้ว โดยมีส่วนของผู้ถือหุ้น 819.84 ล้านบาท ขณะที่ทุนจดทะเบียน 2,325 ล้านบาท (งบสิ้นสุด 30 มิ.ย. 2561)

ด้าน บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOK จากงบการเงินไตรมาส 2/61 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิ.ย.2561 ในส่วนของผู้ถือหุ้นต่ำกว่า 50% ของทุนชำระแล้ว โดยมีส่วนของผู้ถือหุ้นติดลบ 406.10 ล้านบาท ขณะที่ทุนจดทะเบียน 2,271 ล้านบาท (งบสิ้นสุด 30 มิ.ย. 2561)

ขณะเดียวกัน บริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ NBC จากงบการเงินไตรมาส 2/61 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิ.ย.2561 ในส่วนของผู้ถือหุ้นต่ำกว่า 50% ของทุนชำระแล้ว โดยมีส่วนของผู้ถือหุ้น 53.80 ล้านบาท ขณะที่ทุนจดทะเบียน 535.44 ล้านบาท (งบสิ้นสุด 30 มิ.ย. 2561)

ส่วน บริษัท นิวส์ เน็ตเวิร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ NEWS จากงบการเงินไตรมาส 2/61 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิ.ย.2561 ในส่วนของผู้ถือหุ้นต่ำกว่า 50% ของทุนชำระแล้ว โดยมีส่วนของผู้ถือหุ้น 38.29 ล้านบาท ขณะที่ทุนจดทะเบียน 67,886 ล้านบาท (งบสิ้นสุด 30 มิ.ย. 2561)

ส่วน บริษัท พรีเมียร์เอ็นเตอร์ไพรซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ PE จากงบการเงินไตรมาส 2/61 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิ.ย.2561 ในส่วนของผู้ถือหุ้นต่ำกว่า 50% ของทุนชำระแล้ว โดยมีส่วนของผู้ถือหุ้น 86.86 ล้านบาท ขณะที่ทุนจดทะเบียน 400 ล้านบาท (งบสิ้นสุด 30 มิ.ย. 2561) 86,856

ส่วน บริษัท นิวส์ เน็ตเวิร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ NEWS จากงบการเงินไตรมาส 2/61 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิ.ย.2561 ในส่วนของผู้ถือหุ้นต่ำกว่า 50% ของทุนชำระแล้ว โดยมีส่วนของผู้ถือหุ้น 188.57 ล้านบาท ขณะที่ทุนจดทะเบียน 1,081 ล้านบาท (งบสิ้นสุด 30 มิ.ย. 2561)

อนึ่ง ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ประกาศใช้เครื่องหมาย “C” และมีคำสั่งให้ซื้อขายหุ้นด้วยบัญชีเงินสด (Cash Balance) ซึ่งรวมถึงหลักทรัพย์ที่มีหุ้นในกลุ่มที่เป็น Underlying เช่น Warrant, Derivative Warrants ด้วย และกำหนดเกณฑ์การขึ้นเครื่องหมาย “C” ดังนี้

1) ฐานะการเงินลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยพิจารณาจากส่วนของผู้ถือหุ้นน้อยกว่า 50% ของทุนชำระแล้วหลังหักส่วนต่ำมูลค่าหุ้น

2) หน่วยงานกำกับดูแลสถาบันการเงิน บริษัทหลักทรัพย์หรือบริษัทประกัน มีคำสั่งที่เปิดเผยเป็นการทั่วไป บริษัทจดทะเบียนแก้ไขฐานะการเงินหรือการดำเนินงานโดยระงับการดำเนินการบางส่วน หรือไม่ให้ขยายธุรกิจเป็นการชั่วคราว อันส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ

3) ก.ล.ต.สั่งแก้ไขงบการเงิน หรือสั่งให้มีการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษ (Special Audit)

4) ผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็นเนื่องจากถูกจำกัดขอบเขต โดยบริษัทจดทะเบียนหรือกรรมการหรือผู้บริหาร

5) ผู้สอบบัญชีแสดงความเห็นว่างบการเงินไม่ถูกต้อง

6) ศาลล้มละลายฯ รับคำร้องขอฟื้นฟูกิจการหรือรับคำฟ้องล้มละลาย

7) เป็น Cash Company (มีสินทรัพย์ทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมด อยู่ในรูปเงินสด/หลักทรัพย์ระยะสั้น)

โดยบริษัทที่เข้าเงื่อนไขจะต้องจัดงานแถลงเป็นการทั่วไป (Public Presentation) เพื่อชี้แจงเหตุผลและแนวทางแก้ไขกับผู้ลงทุนและผู้เกี่ยวข้องภายใน 15 วัน ซึ่งการสิ้นสุดการขึ้นเครื่องหมายในกรณีที่บริษัทพ้นเหตุการณ์ขึ้นเครื่องหมาย หรือกรณีที่แก้ไขเหตุหรือเงื่อนไขไม่ได้แต่เข้าสู่เหตุเพิกถอน

สำหรับหลักทรัพย์ที่ขึ้นเครื่องหมาย “C” ต้องซื้อด้วย Cash Balance นั้น ตลท.จะประกาศให้ผู้ลงทุนทราบล่วงหน้า 1 วันทำการ และเพื่อให้ผู้ลงทุนได้รับทราบข้อมูลและแนวทางแก้ไขของ บจ.จึงให้ บจ.ชี้แจงข้อมูลภายใน 15 วันนับตั้งแต่วันที่ขึ้นเครื่องหมาย และทุกไตรมาส สำหรับระยะเวลาของการขึ้นเครื่องหมายจะมีผลจนกว่า บจ. จะแก้ไขเหตุเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ เครื่องหมาย “C” เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 2 ก.ค.2561 ที่ผ่านมา