“เดโมแครต” คว้าเก้าอี้สภาล่างเกินครึ่ง! ทิ้งห่าง “รีพับลิกัน” 22 ที่นั่ง

“เดโมแครต” คว้าเก้าอี้สภาล่างเกินครึ่ง! ทิ้งห่าง “รีพับลิกัน” 22 ที่นั่ง


สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น (CNN) รายงานผลการเลือกตั้งกลางเทอม ล่าสุด ณ เวลา 15.27 น. โดยการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคเดโมแครต มีคะแนนนำพรรครีพับลิกัน โดยได้รับคะแนนเสียง 220 ที่นั่ง ส่วนพรรคพรรครีพับลิกัน สามารถคว้าไปได้ 198 ที่นั่ง โดยใน 220 ที่นั่ง นั้น ถือว่าเป็นการชนะแบบยังไม่เป็นทางการ เนื่องจากการเลือกตั้งส.ส.ครั้งนี้มีทั้งหมด 435 ที่นั่ง พรรคเดโมแครต สามารถชิงที่นั่งส.ส.ซึ่งเป็นฐานเดิมของพรรคพรรครีพับลิกัน มาได้ถึง 26 ที่นั่ง

ส่วนการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) นั้น พรรครีพับลิกัน ซึ่งมีประธานาธิบดีจากพรรคนี้คนล่าสุดคือ โดนัลด์ ทรัมป์ ทำคะแนนได้ 50 ที่นั่ง เอาชนะพรรคเดโมแครต ที่มีคะแนนทั้งหมด 38 ที่นั่ง โดยในการเลือกตั้งครั้งนี้จะเลือกตั้งส.ว.ทั้งหมด 35 ตำแหน่ง

โดยปัจจุบันในวุฒิสภา พรรครีพับลิกันมี ส.ว. 51 ที่นั่ง พรรคเดโมแครตมี ส.ว. 47 ที่นั่ง ผู้สมัครอิสระอีก 2 ที่นั่ง การเลือกตั้งในครั้งนี้พรรครีพับลิกันจึงต้องการอีกเพียง 9 ที่นั่งทดแทนเก้าอี้ที่ว่างลง

อย่างไรก็ตามขณะที่ยังอยู่ระหว่างการนับคะแนนเสียงทั้งหมดของส.ว. และส.ส.ยังไม่สิ้นสุดลง หากมีความคืบหน้าในประเด็นดังกล่าว “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” จะรายงานให้ทราบในครั้งต่อไป

 

อนึ่งที่ผ่านมาพรรครีพับลิกัน ของ ประธานาธิบดีทรัมป์ มีเสียงข้างมากในรัฐสภาทั้ง 2 สภา จึงทำให้ ประธานาธิบดีทรัมป์ มีอำนาจมากมาย สามารถออกกฎหมายอะไรก็ได้ รวมทั้ง การทำสงครามการค้ากับจีน จนระบบการค้าป่วนไปทั้งโลก

โดยการเลือกตั้งกลางเทอม ในวันอังคารที่ 6 พฤศจิกายน หากพรรคเดโมแครต มีชัยเหนือ พรรครีพับลิกัน ในสภาผู้แทนราษฎร จะทำให้การบริหารงานของ ประธานาธิบดีทรัมป์ 2 ปีหลังไม่ราบรื่น เพราะกฎหมายและนโยบายแต่ละฉบับจะต้องผ่านสภาผู้แทน และวุฒิสภาทั้ง 2 สภา

สำหรับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐของทรัมป์ที่ผ่านมา เน้นการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน, เพิ่มการใช้จ่ายด้านการทหาร และปรับลดภาษีลงอย่างมาก ผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปภาษี ซึ่งถือเป็นการปรับลดภาษีครั้งใหญ่ที่สุดในโลกจากร้อยละ 35 มาอยู่ที่ ร้อยละ 21

นอกจากนี้ ที่ผ่านมา ทรัมป์ ยังมีการเรียกร้องให้สหรัฐฯ กีดกันชาวมุสลิมเข้าประเทศ โดยให้เหตุผลเพื่อป้องกันการก่อการร้าย หลังเกิดเหตุโจมตีกรุงปารีส เมืองหลวงของฝรั่งเศส และเหตุกราดยิงรุนแรงในเมืองซาน เบอร์นาดิโน มลรัฐแคลิฟอร์เนีย

Back to top button