BSM พุ่งกระฉูด 15% นิวไฮรอบ 3 เดือน คาดรายได้ปีนี้โตทะลักเกิน 1 พันลบ.

BSM พุ่งกระฉูด 15% นิวไฮรอบ 3 เดือน คาดรายได้ปีนี้โตทะลักเกิน 1 พันลบ. โดย ณ เวลา 15.09 น. ราคาอยู่ที่ 0.63 บาท เพิ่มขึ้น 0.08 บาท หรือ 14.55% สูงสุดที่ระดับ 0.70 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 0.55 บาท มูลค่าการซื้อขาย 8.39 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หุ้น บริษัท บิวเดอสมาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ BSM ณ เวลา 15.09 น. ราคาอยู่ที่ 0.63 บาท เพิ่มขึ้น 0.08 บาท หรือ 14.55% สูงสุดที่ระดับ 0.70 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 0.55 บาท มูลค่าการซื้อขาย 8.39 ล้านบาท

ทั้งนี้ ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบเกือบ 3 เดือน นับตั้งแต่ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 0.64 บาท เมื่อวันที่ 16 พ.ย.61

นายสัญชัย เนื่องสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BSM เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 61 คาดว่าจะมีรายได้รวมอยู่ที่ราว 640 ล้านบาท เติบโต 7% จากระดับ 599.84 ล้านบาทในปี 60 และคาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโตมากกว่าการเติบโตของรายได้ เนื่องจากการขายสินค้าที่เป็นแบรนด์ของบริษัท ส่งผลให้มีอัตรากำไรขั้นต้นที่ดี ประกอบกับการควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้ดีขึ้น ส่งผลให้ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 61 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 36.89 ล้านบาท

ส่วนในปี 62 คาดว่ารายได้จะเติบโตเป็นระดับไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท เนื่องจากรายได้จากวัสดุก่อสร้างยังจะสามารถเติบโตได้อีก เช่น กลุ่มงานออฟฟิศ คอนโดมิเนียม โรงแรม และ โรงพยาบาล ประกอบกับจะมีการออกสินค้าใหม่ 2 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ ระบบผนังสำหรับงานคอนโดมิเนียม และ ประตูบานเลื่อนแบบพับเก็บได้ ประกอบกับในปีนี้จะมีรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เข้ามาด้วย ทำให้บริษัทคาดว่าปีนี้จะมีสัดส่วนรายได้ จากธุรกิจหลัก คือธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ก่อสร้างคุณภาพสูง 70% และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 30%

สำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่เป็นการพัฒนาคอนโดมิเนียม Low-rise ภายใต้แบรนด์ “The Teak” ปัจจุบันมียอดขายที่รอรับรู้รายได้ ( Backlog) กว่า 600 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มทยอยรับรู้รายได้ภายในปี 62 ไม่ต่ำกว่า 350 ล้านบาท โดยจะเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ตั้งแต่ไตรมาส 1/62 ซึ่งจะทำให้ภาพรวมอัตรากำไรสุทธิปีนี้ไม่ต่ำกว่า 3 ไตรมาส ปี 61 ที่อยู่ระดับ 7.67%

ทั้งนี้ บริษัทวางแผนที่จะเปิดขายอสังหาริมทรัพย์โครงการใหม่ (Pre-sale) โดยเฉลี่ยไตรมาสละ 1 โครงการ ซึ่งแต่ละโครงการจะมีมูลค่าประมาณ 350-400 ล้านบาท โดยจะเน้นทำเลย่านศูนย์กลางธุรกิจ (Central Business District: CBD) เป็นหลัก ซึ่งจะมีระยะห่างจากรถไฟฟ้าไม่เกิน 1 กิโลเมตร

โดยปัจจุบันบริษัทมีโครงการที่กำลังพัฒนาอยู่จำนวน 5 โครงการ เป็นโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้างจำนวน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการ The Teak Sukhumvit 39 และ โครงการ The Teak Sathon-Lumpini โดยคาดว่าจะเริ่มทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ปี 62 เป็นต้นไป ส่วนที่เหลืออีก 3 โครงการ บริษัทจะเน้นใน 3 ทำเลหลัก ได้แก่ รัชดา 19 , อารีย์ และ นางลิ้นจี่ ซึ่งโครงการในทำเลดังกล่าวจะเริ่มทยอยเปิดขายตั้งแต่ไตรมาส 1/62 เป็นต้นไป โดยได้ตั้งงบลงเพื่อซื้อที่ดินในทำเล CBD ใกล้รถไฟฟ้าสายหลัก เพื่อให้สามารถพัฒนาโครงการได้อย่างต่อเนื่อง

สำหรับภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 62 มองว่าในช่วงต้นปีตลาดจะมีการขายและการโอนคึกคักมากเป็นพิเศษ เพราะจะมีการเร่งโอนก่อนมาตรการควบคุมสินเชื่อบ้าน (LTV) ซึ่งจะบังคับใช้ในเดือนเม.ย.

Back to top button