SET พลิกปิดลบ 6 จุด หลังไร้ปัจจัยใหม่หนุน แนะจับตาบจ.ประกาศงบฯปี 61

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีปิดตลาดวันนี้ ที่ระดับ 1,653.11 จุด ลบ 5.60 จุด หรือ 0.34% มูลค่าการซื้อขาย 5 หมื่นล้านบาท

10 หุ้นกดดัชนีวันนี้

ด้าน น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการบริหาร ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งไซด์เวย์ในกรอบแคบ คล้ายคลึงกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย และตลาดในยุโรปที่เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบในกรอบแคบ ซึ่งการซื้อขายยังไม่คึกคักมาก แต่วอลุ่มเทรดถือว่าดีขึ้นกว่าช่วงก่อนตรุษจีน เนื่องจากตลาดฯไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา และยังอยู่ในช่วงของการรอดูการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน แต่โดยรวมก็ไม่มีปัจจัยลบ ส่วนปัจจัยบวกก็ไม่ได้แรง ซึ่งมองว่าผลประกอบการ และการประกาศจ่ายปันผล จะเป็นตัวที่จะมาช่วยกระตุ้นตลาดฯ

ส่วนปัจจัยต่างประเทศ ให้ติดตามเรื่องการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร และติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศขนาดใหญ่ ซึ่งที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าเศรษฐกิจของจีน และยุโรป ชะลอตัว แต่ทางสหรัฐฯตัวเลขเศรษฐกิจออกมาดีกว่าตลาดอื่น

นอกจากนี้ให้ติดตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์จะฟื้นตัวได้หรือไม่หลังตรุษจีน เพราะปกติก่อนตรุษจีนจะมีการชะลอการสั่งซื้อ ดังนั้นหลังตรุษจีนคำสั่งซื้อจะกลับมาหรือไม่ต้องรอดู หากราคสินค้าโภคภัณฑ์ฟื้นตัวก็จะเป็นตัวกระตุ้นตลาดหุ้นไทยได้ด้วย เพราะหุ้นที่เกี่ยวข้องกับสินค้าโภคภัณฑ์มีน้ำหนักถึง 30% ในตลาดหุ้นไทย

สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (8 ก.พ.) น.ส.อาภาภรณ์ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งตัวรอปัจจัยใหม่ แต่ตลาดฯก็อาจจะไม่ปรับตัวลงมากเพราะยังได้ผลประกอบการของบรัษัทจดทะเบียนช่วยประคองตลาดฯอยู่ พร้อมให้แนวรับ 1,640 จุด ถัดไป 1,620-1,610 จุด ส่วนแนวต้าน 1,660-1,670 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดันแรก ได้แก่

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 3,055,043.60 ล้านบาท ปิดที่ 183.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท

CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,858,007.52 ล้านบาท ปิดที่ 76.50 บาท ลดลง 1.75 บาท

PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,112,633.98 ล้านบาท ปิดที่ 49 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,098,221.90 ล้านบาท ปิดที่ 202 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

EA มูลค่าการซื้อขาย 1,892,739.75 ล้านบาท ปิดที่ 49.50 บาท ลดลง 0.25 บาท

ตลาดหุ้นเอเชีย