แรงขายบลูชิพกด SET ปิดลบ 3 จุด ฟากโบรกฯแนะลงทุนหุ้นพื้นฐานแกร่ง-ปันผลดี

แรงขายบลูชิพกด SET ปิดลบ 3 จุด ฟากโบรกฯแนะลงทุนหุ้นพื้นฐานแกร่ง-ปันผลดี โดยดัชนีปิดตลาดวันนี้ ที่ระดับ 1,630.12 จุด ลบ 3.09 จุด หรือ 0.19% มูลค่าการซื้อขาย 3.4 หมื่นล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีปิดตลาดวันนี้ ที่ระดับ 1,630.12 จุด ลบ 3.09 จุด หรือ 0.19% มูลค่าการซื้อขาย 3.4 หมื่นล้านบาท

10 หุ้นกดดัชนีวันนี้

นายวิวัฒน์ เตชะพูลผล รองกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ทางเทคนิค บล.ทิสโก้ กล่าวว่า สถานการณ์การลงทุนในช่วงปลายสัปดาห์นี้ นักลงทุนกลับมากังวลความเสี่ยงเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลกที่กำลังส่งสัญญาณชะลอตัว ภายหลังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ออกมาปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจยูโรโซนในปีนี้ ทำให้นักลงทุนเริ่มวิตกกับการเร่งตัวขึ้นของหนี้เสียของธนาคารในแถบยุโรป

โดยความกังวลที่เกิดขึ้น ได้กระทบกับราคาน้ำมันในตลาดโลกให้มีแนวโน้มอ่อนตัว ตามความต้องการที่ลดลง กระทบแรงขายสลับออกมาในหุ้นกลุ่มพลังงาน

ขณะที่ทิศทางดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดัชนีดาวโจนส์มีโอกาสปรับตัวลดลง เป็นปัจจัยกดดันดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลก สะท้อนผ่านการโยกย้ายเงินของกลุ่มนักลงทุนในตลาดที่ลดน้ำหนักสินทรัพย์เสี่ยง หันมาซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยกันมากขึ้นอย่างทองคำ

สำหรับดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ มองว่ายังแกว่งตัวลดลงเล็กน้อย เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเดียวกัน เป็นผลจากนักลงทุนต่างชาติมีสัดส่วนถือครองหุ้นไทยต่ำ, สถานการณ์ทางการเมือง มีความชัดเจนในการเลือกตั้งมากขึ้นในวันที่ 24 มี.ค.นี้ แม้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ยุบพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) พร้อมทั้งตัดสิทธิทางการเมืองของกรรมการบริหารพรรคก็ตาม, ขณะที่มีปัจจัยบวกในช่วงปลายเดือน มี.ค.นี้ กรณี MSCI จะพิจารณานำกระดาน NVDR มารวมคำนวณในดัชนีฯ MSCI Thailand ถ้ารวมคำนวณจริงตามคาด น้ำหนักหุ้นไทยจะเพิ่มขึ้นเป็น 3% จาก 2.5%

ส่วนทิศทางตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์หน้า คาดเป็นลักษณะแกว่งตัว แต่ต้องติดตามปัจจัยลบความกังวลภาวะเศรษฐกิจภายนอกประเทศ จะทวีความรุนแรงขึ้นจนกระทบบรรยากาศการลงทุนโดยรวมเป็นเชิงลบหรือไม่ แนะนำนักลงทุนระยะสั้น Wait & See เพราะปริมาณซื้อขายยังเบาบาง ทำให้มีความเสี่ยงหากตลาดผันผวนในเชิงลบ ขณะที่นักลงทุนระยะกลาง เน้นปัจจัยพื้นฐานได้รับประโยชน์จากเศรษฐกิจในประเทศเริ่มดีขึ้น รวมถึงหุ้นที่มีปันผลสูง โดยมองแนวรับที่ 1,620 จุด และแนวต้านที่ 1,640 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดันแรก ได้แก่

PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,018,370.05 ล้านบาท ปิดที่ 47.50 บาท ลดลง 0.25 บาท

PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 1,416,404.58 ล้านบาท ปิดที่ 68.25 บาท ลดลง 1 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,321,618.10 ล้านบาท ปิดที่ 193 บาทเพิ่มขึ้น 1 บาท

PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,188,027.65 ล้านบาท ปิดที่ 121 บาท ลดลง 1.50 บาท

BTS มูลค่าการซื้อขาย 902,708.01 บาท ปิดที่ 10.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท

ตลาดหุ้นเอเชีย

Back to top button