สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 23 ต.ค. 2562

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 23 ต.ค. 2562


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (23 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงมีมุมมองที่ดีต่อแนวโน้มธุรกิจของบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างแคทเธอร์พิลลาร์ และโบอิ้ง แม้ทั้งสองบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่น้อยกว่าคาดก็ตาม ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานผลประกอบการของบริษัทอื่นๆในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงไมโครซอฟท์ และฟอร์ด มอเตอร์

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,833.95 จุด เพิ่มขึ้น 45.85 จุด หรือ +0.17% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,004.52 จุด เพิ่มขึ้น 8.53 จุด หรือ +0.28% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,119.79 จุด เพิ่มขึ้น 15.50 จุด หรือ +0.19%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (23 ต.ค.) โดยหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มรถยนต์ได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด ขณะที่เงินปอนด์ที่อ่อนค่าลงช่วยหนุนหุ้นกลุ่มส่งออกในตลาดหุ้นอังกฤษ

ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 0.11% ปิดที่ 395.03 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,798.19 จุด เพิ่มขึ้น 43.50 จุด หรือ +0.34% และ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,260.74 จุด เพิ่มขึ้น 48.25 จุด หรือ  +0.67% ส่วนดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,653.44 จุด ลดลง 4.24 จุด หรือ -0.07%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (23 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ และหุ้นกลุ่มเหมืองแร่บวกขึ้นตามราคานิกเกิลและทองแดง นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มส่งออกยังได้แรงหนุนจากเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลงด้วย

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,260.74 จุด เพิ่มขึ้น 48.25 จุด หรือ +0.67%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือนเมื่อคืนนี้ (23 ต.ค.) ขานรับสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ปรับตัวลดลงสวนทางกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้รับแรงหนุนจากความหวังที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะเพิ่มการปรับลดกำลังการผลิตในการประชุมเดือนธ.ค.นี้

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 1.49 ดอลลาร์ หรือ 2.7% ปิดที่ 55.97 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 26 ก.ย.

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.47 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 61.17 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 27 ก.ย.

 

เงินปอนด์ฟื้นตัวขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (23 ต.ค.) ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ที่อังกฤษแยกตัวจากสหภาพยุโรป (Brexit) พร้อมกับจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า

เงินปอนด์ดีดตัวขึ้นแตะที่ระดับ 1.2904 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2882 ดอลลาร์ ขณะที่ยูโรขยับขึ้นสู่ระดับ 1.1127 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1123 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 0.6851 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6853 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 108.65 เยน จากระดับ 108.46 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9905 ฟรังก์ จากระดับ 0.9890 ฟรังก์ แต่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3077 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3097 ดอลลาร์แคนาดา

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเป็นวันแรกในนรอบ 4 วันทำการเมื่อคืนนี้ (23 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความไม่แน่นอนของการที่อังกฤษแยกตัวจากสหภาพยุโรป (Brexit) นอกจากนี้ การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังเป็นปัจจัยหนุนตลาดทองคำ

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 8.2 ดอลลาร์ หรือ 0.55% ปิดที่ 1,495.7  ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 8 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 17.58 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. พุ่งขึ้น 26.4 ดอลลาร์ หรือ 2.95% ปิดที่ 922.4 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 13.90 ดอลลาร์ หรือ 0.8% ปิดที่ 1,714.60 ดอลลาร์/ออนซ์

Back to top button