SVI จัดหนักปันผล 1.93 บาท “พงษ์ศักดิ์” รับอื้อ 3 พันลบ. หลังเทนเดอร์ฯล็อตใหญ่

SVI จัดหนักปันผล 1.93 บาท "พงษ์ศักดิ์" รับอื้อ 3 พันลบ. หลังเทนเดอร์ฯล็อตใหญ่


บริษัท เอสวีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ SVI ระบุว่า บริษัทได้ประกาศจ่ายปันผลจากงวดดำเนินงานวันที่ 1 ม.ค. 2562 ถึงวันที่ 30 ก.ย. 2562  และกำไรสะสม เป็นเงินสดจำนวน 1.9282 บาทต่อหุ้น โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD ไม่ได้รับสิทธิปันผลในวันที่ 19 ธ.ค.2562 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 30 ธ.ค.2562

ทั้งนี้จากการสำรวจข้อมูลผู้ถือหุ้นของ SVI พบว่า ภายหลังจากการทำเทนเดอร์หุ้น SVI ของนายพงษ์ศักดิ์ โล่ห์ทองคำ ประธานกรรมการและผู้ถือหุ้นรายใหญ่ SVI เสร็จสิ้น ส่งผลให้ปัจจุบัน นายพงษ์ศักดิ์ โล่ห์ทองคำ ถือหุ้น SVI เพิ่มขึ้นเป็น 1,561,944,732 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 72.54% จากเดิม 45.71% ดังนั้น นายพงษ์ศักดิ์ โล่ห์ทองคำ จะได้รับเงินปันผลประมาณ 3 พันล้านบาท

อนึ่ง ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา นายพงษ์ศักดิ์ โล่ห์ทองคำ ถือเป็นรายแรกในประเทศไทยที่ประสบผลสำเร็จในการทำธุรกรรมประเภทการเข้าซื้อกิจการโดยผู้บริหาร (Management Buyout หรือ MBO) เนื่องจากนายพงษ์ศักดิ์ อยู่ในตำแหน่งผู้บริหารของ SVI

โดยการเข้าซื้อกิจการแบบ MBO ของนายพงษ์ศักดิ์ เริ่มจากเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2552 จัดตั้งบริษัท เอ็มเอฟจี โซลูชั่น จำกัด (MFG) ที่มีนายพงษ์ศักดิ์ ถือหุ้นอยู่ 99.96% เพื่อเข้าซื้อหุ้น SVI จากบริษัท เอเชียแปซิฟิก อิเล็กทรอนิกส์ (บีวีไอ) จำกัด ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ SVI จำนวน 58.48% ราคาหุ้นละ 1.40 บาท มูลค่ารวม 1,228 ล้านบาท จากนั้นบริษัท เอ็มเอฟจี โซลูชั่น จำกัด (MFG) ทำคำเสนอซื้อหุ้นส่วนที่เหลืออีกสัดส่วน 30.55% จากนักลงทุนทั่วไป ราคา 1.40 บาท และใบสำคัญแสดงสิทธิ (SVI-W2) ราคาหน่วยละ 0.40 บาท แต่ไม่สามารถทำเทนเดอร์หุ้นและวอร์แรนต์ที่เหลือทิ้งได้

เมื่อวันที่ 26 พ.ย. 2556 มีทำรายการซื้อขายล็อตใหญ่ (Big lot) หุ้น SVI โดยนายพงษ์ศักดิ์ ได้ซื้อหุ้น SVI เพิ่มเติมจากบริษัท MFG จำนวน 157,895,000 หุ้น หรือ 6.98% ของทุนที่ออกและชำระแล้ว ทำให้นายพงษ์ศักดิ์ ถือหุ้นเพิ่มขึ้นจาก 36.53% เป็น 43.51% ส่วน Eagle Mount Asia Equities Limited เป็นผู้ถือหุ้นอันดับสอง สัดส่วน 10.11%

ต่อมาเมื่อวันที่ 24 ก.ย. 2562 นายพงษ์ศักดิ์ ซึ่งถือหุ้นอยู่ 45.71% ประกาศทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดโดยสมัครใจแบบมีเงื่อนไข (Conditional Voluntary Tender Offer) เพื่อเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในกิจการและเพิ่มอำนาจควบคุม โดยมีความประสงค์จะเข้าถือหุ้นไม่ต่ำกว่า 65% (อาจยกเลิกการทำคำเสนอซื้อหุ้นหากมีผู้เสนอขายน้อยกว่า 19.29%)

อย่างไรก็ตาม Eagle Mount Asia Equities Limited ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ ประกาศเจตนาที่จะไม่ขายหุ้นให้แก่ผู้ทำคำเสนอซื้อ ในทุกกรณีสำหรับการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ 7.74% (ตามสัดส่วนการถือหุ้น)

Back to top button