9 หุ้นอสังหาฯบวกคึก! ลุ้นธปท.เตรียมแถลงปลดล็อคมาตรการ LTV วันนี้

9 หุ้นอสังหาฯบวกคึก! ลุ้นธปท.เตรียมแถลงปลดล็อคมาตรการ LTV วันนี้


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นในกลุ่มอสังหาฯขยับขึ้นทั่วหน้าวันนี้(20ม.ค.63) ณ เวลา 11.07 น. นำโดย AP,EVER,NOBLE,SPALI,S,ANAN, GLAND,PSH และ RML คาดเก็งกำไรได้ Sentiment บวกจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.ตรียมประกาศผ่อนปรนมาตรการ LTV

บล.เอเซีย พลัส  ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(20ม.ค.63) ว่า แหล่งข่าวกระทรวงการคลัง คาดธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะแถลงข่าวเรื่องการผ่อนเกณฑ์มาตรการควบคุมสินเชื่อที่อยู่อาศัย  (loan to value – LTV) ในวันนี้ (20 ม.ค. 2563) หลังจากการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน ที่มีตัวแทนกระทรวงการคลังเข้าร่วมประชุมเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เห็นชอบเรื่องดังกล่าว

ถือเป็น Sentiment เชิงบวกอย่างมีนัยฯ ต่อกลุ่มพัฒนาที่อยู่อาศัย เนื่องจากที่ผ่านมาการบังคับใช้มาตรการ LTV ใหม่ ตั้งแต่  1 เม.ย. 2562 ส่งผลกระทบเชิงลบต่อความต้องการซื้อที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะกลุ่มคอนโดฯ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบ้านหลังที่ 2 เนื่องจากถูกจำกัดด้วย LTV ให้กู้ได้น้อยลง เพราะต้องวางเงินดาวน์เพิ่มเป็น 20% (เมื่อเทียบกับบ้านหลังแรกที่วางดาวน์ 0-10%) พิจารณาจากข้อมูล ธปท. พบว่าสินเชื่อที่อยู่อาศัยใหม่โดยรวม 9M62 ในส่วนสัญญาที่ 2 ขึ้นไปได้ปรับตัวลดลง 19.5% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน (กลุ่มแนวราบลดลง 2.1% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และคอนโดฯ ลดลง 32% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) ขณะที่ฝั่งผู้ประกอบการ  16 รายภายใต้ Coverage ของฝ่ายวิจัย มียอด Presale (รวม JV) หดตัวไป 28% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน อยุ่ที่ 2.03 แสนล้านบาท มาจากยอดขายคอนโดฯ (สัดส่วน 49%) ชะลอตัว 36% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนแนวราบ (สัดส่วน 51%) ลดลง 18% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ด้านผลประกอบการกลุ่มฯ 9M62 มีกำไรปกติ 2.4 หมื่นล้านบาท ลดลง 17% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน

ดังนั้นการผ่อนปรนมาตรการ LTV บ้านหลังที่ 2 และตามข่าวอาจมีการปรับหลักเกณฑ์สำหรับสัญญาซื้อบ้านสัญญาที่หนึ่ง รวมถึงกรณีที่บ้านราคาตั้งแต่ 10 ล้านขึ้นไป ในบ้านหลังแรกและหลังที่สองด้วยเช่นกัน คงต้องรอการแถลงจากแบงค์ชาติในวันนี้อีกครั้ง หากมีการผ่อนคลายได้หมดตามกระแสข่าว ย่อมลดความกังวล โดยเฉพาะกับโครงการที่ขายไปแล้วและมี Backlog (ณ ก.ย. 2562) รวม 3.32 แสนล้านบาท ที่จะพร้อมโอนฯ ได้ง่ายขึ้น รวมถึงการสร้างยอดขายใหม่จากโครงการเดิมที่อยู่ระหว่างพัฒนาของผู้ประกอบรายใหญ่ที่ยังมีมูลค่าคงเหลือขาย สิ้น 3Q62 อีกเกือบ 6 แสนล้านบาท มีโอกาสขายได้เพิ่มเช่นกัน

โดยสรุปเชื่อว่า Sentiment บวกจากการเปลี่ยนแปลงมาตรการ LTV ที่นอกจากจะช่วยลด Downside Risk ต่อประมาณการกลุ่มฯ ปี 2563 แต่อาจสร้าง Upside ส่วนเพิ่ม รวมถึงทิศทางผลประกอบการ ไตรมาส 4/62  ของกลุ่มฯ ที่ปกติจะทำจุดสูงสุดของปี และความน่าสนใจเรื่องเงินปันผลที่จะประกาศเดือน ก.พ. นี้ จะขับเคลื่อนราคาหุ้นในกลุ่มฯ

คงแนะนำหุ้นเด่น ได้แก่ LH ([email protected]) คาดกำไรไตรมาส 4/62  โดดเด่น และ Div Yield ปีละ 7% รวมถึง  AP ([email protected]) คาดกำไรจะสูงขึ้นรายไตรมาสตั้งแต่ ไตรมาส 4/62  ถึงตลอดปี 2563 ที่จะเติบโต ในระดับ 15% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน อีกทั้งคาดหมาย Div Yield 4-5% ต่อปี (จ่ายปีละ 1 ครั้ง) และ PSH ([email protected]) ราคาหุ้นยัง Underperform กลุ่มฯ หนุนเงินปันผลสูงเฉลี่ย 8% ต่อปี

 

บล.กสิกรไทย ระบุว่า มีรายงานข่าวว่าธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) จะจัดการแถลงต่อสื่อมวลชนช่วงวันนี้ เพื่อประกาศการผ่อนปรนมาตรการควบคุมสินเชื่อที่อยู่อาศัย (LTV) โดยนอกจากการปรับเพิ่ม LTV สินเชื่อสัญญา 1 และ 2 ก็จะมีการปรับลดสำรองที่สถาบันการเงินจะต้องสำรองเอาไว้เพื่อสินเชื่อที่อยู่อาศัยด้วยเช่นกัน

ดังนั้น มองบวกต่อกลุ่มผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัยทั้งหมด อย่างบมจ.พฤกษา โฮลดิ้ง (PSH) บมจ.แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ (LPN) บมจ.ศุภาลัย (SPALI) บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI) บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์ (QH) และบมจ.เอพี (ไทยแลนด์) (AP) จะได้ประโยชน์มากที่สุดจากพัฒนาการดังกล่าว

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ”ซื้อ”หุ้น AP ให้เป้า IAA Consensus 8.7 บาท ได้ Sentiment บวกจากข่าวธปท.เตรียมประกาศผ่อนคลายเกณฑ์ LTV ให้กับบ้านหลังที่ 2 ซึ่ง AP น่าจะได้ประโยชน์เป็นอันดับต้น ๆ ของกลุ่ม เพราะเน้นโครงการบ้านที่มีราคาขายในระดับต่ำถึงกลาง นอกจากนี้ AP ยังจ่ายปันผลสม่ำเสมอประมาณ 0.33 บาทให้ Dividend yield ประมาณ 4.4%

Back to top button