PTTEP คาดกำไรปีนี้ลดจากปีก่อน-ตั้งงบ 2.5 พันล้านเหรียญซื้อกิจการใน-ตปท.

PTTEP คาดกำไรปีนี้ลดจากปีก่อนที่ 2.15 หมื่นล้านบาท เลื่อนเป้าผลิต 6 แสนบาร์เรล/วันเป็นปี 68 มั่นใจว่าจะรักษาอัตรากำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย,ภาษี,ค่าเสื่อม และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA margin) ไม่ต่ำกว่า 70% หลังจากในช่วงครึ่งปีแรกบริษัททำได้ 72%


นางเพ็ญจันทร์ จริเกษม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานการเงินและการบัญชี บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP เปิดเผยว่า สำหรับแนวโน้มกำไรสุทธิปีนี้คาดว่าจะต่ำกว่าระดับ 2.15 หมื่นล้านบาทจากในปีก่อน หลังราคาน้ำมันปรับตัวลดลง

ส่งผลให้ราคาขายปิโตรเลียมเฉลี่ยในช่วงที่ผ่านมาปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ราว 48 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จากทั้งปีก่อนอยู่ที่เฉลี่ย 63.38 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ขณะที่ได้เลื่อนเป้าหมายการผลิตปิโตรเลียมในระดับ 6 แสนบาร์เรล/วันออกไปเป็นปี 68 จากเดิมที่คาดจะทำได้ภายในปี 63

อย่างไรก็ตามในปีนี้มั่นใจว่าจะรักษาอัตรากำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย,ภาษี,ค่าเสื่อม และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA margin) ไม่ต่ำกว่า 70% หลังจากในช่วงครึ่งปีแรกบริษัททำได้ 72% โดยบริษัทได้ดำเนินการปรับปรุงการผลิตให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อลดต้นทุนการผลิต

สำหรับเป้าหมายปริมาณการขายปิโตรเลียมปีนี้ คาดการณ์ว่าจะเติบโตได้ราว 3% จาก 3.22 แสนบาร์เรล/วันในปีก่อน ขณะที่ยังคงงบลงทุนในปีนี้ที่ คงงบลงทุนไว้ที่ 2.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อใช้ในการซื้อกิจการ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจาทั้งในและต่างประเทศ

รวมถึงใช้ขยายปริมาณการผลิตปิโตรเลียม ส่วนแผนการขยายปริมาณการผลิตปิโตรเลียมระยะยาวนั้น บริษัทได้เลื่อนแผนขยายปริมาณการผลิตในระดับ 6 แสนบาร์เรล/วันเป็นในปี 68 จากเดิมที่คาดว่าจะทำได้ในปี 63 จากปัจจุบันที่มีการผลิตระดับ 3.7 แสนบาร์เรล/วัน เนื่องจากรอภาวะและโอกาสการลงทุนที่เหมาะสม

นอกจากนี้ บริษัทคาดว่าในช่วงครึ่งปีหลัง จะมีกำไรจากการทำประกันความเสี่ยงราคาน้ำมันต่อเนื่องจากครึ่งปีแรกที่มีกำไรจากการประกันความเสี่ยงราคาน้ำมัน 13 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยบริษัทได้ทำประกันความเสี่ยงเฉลี่ยไว้ที่ระดับราคา 50 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ซึ่งประเมินว่าราคาน้ำมันครึ่งปีหลังจะใกล้เคียงหรือต่ำกว่าระดับดังกล่าว เพราะเศรษฐกิจจีนชะลอตัว ขณะที่จีนเป็นผู้ใช้น้ำมันรายใหญ่รายหนึ่งของโลกอย่างทำให้ความต้องการใช้น้ำมันจะลดลงในขณะที่กำลังการผลิตน้ำมันยังล้นตลาดอยู่

ขณะที่ล่าสุดบริษัทได้ยื่นขอให้กรมสรรพากรปรับเกณฑ์การยื่นไฟลิ่งภาษีให้เป็นเงินสกุลดอลลาร์ เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของค่าเงินบาทด้วย 

Back to top button