ศาลไต่สวนคำร้อง ฟื้นฟู “บินไทย” นัดแรก เจ้าหนี้ยื่นค้าน-ซักยิบ ข้องใจจ้าง “อีวาย” ทำแผน

ศาลไต่สวนคำร้อง ฟื้นฟู “บินไทย” นัดแรก ยังไม่เคาะ เจ้าหนี้ยื่นค้าน-ซักยิบ ข้องใจจ้าง “อีวาย” ทำแผน ศาลนัดไต่สวนตามคำร้องของเจ้าหนี้อีก 2 ครั้ง วันที่ 20 และ 25 ส.ค.นี้ เวลา 9.00 ก่อนระบุวันพิพากษา


ศาลล้มละลายกลางไต่สวนคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของ บริษัท การบินไทย จำกัด(มหาชน) หรือ THAI นัดแรกในวันนี้ (17 ส.ค.63) โดยมีเจ้าหนี้ยื่นคัดค้าน 16 รายที่ส่วนใหญ่เป็นรายย่อยยื่นคัดค้าน โดยเฉพาะเจ้าหนี้ตั๋วโดยสารที่ขอเรียกเงินคืน รวมถึงสหกรณ์ออมทรัพย์วชิระพยาบาล และ บริษัท ทิพยประกันชีวิต จำกัด(มหาชน) จากที่บริษัทมีเจ้าหนี้รายใหญ่มากกว่า 100 ราย มูลหนี้รวมกว่า 3 แสนล้านบาท

ขณะที่พยานฝ่ายลูกหนี้ คือ THAI ให้การ 3 ปากตอบข้อซักค้านของเจ้าหนี้ ได้แก่ นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่, นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการ และอดีตกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ THAI และนางสาวชุติมา ปัญจโภคากิจ กรรมการ บริษัท อีวาย คอร์ปอเรท แอดไวซอรี่ เซอร์วิสเซส จำกัด ในฐานะหนึ่งในผู้จัดทำแผนฟื้นฟูฯ

โดยทนายฝ่ายเจ้าหนี้ได้ซักค้านนายชาญศิลป์ ส่วนใหญ่เป็นคำถามพุ่งเป้าเกี่ยวกับการจัดจ้างบริษัท อีวาย คอร์ปอเรทฯ ซึ่งนายชาญศิลป์ตอบคำถามว่า ไม่ทราบว่า อีวาย คอร์ปอเรทฯ เป็นคนละบริษัทกับสำนักงานอีวายที่เป็นบริษัทผู้สอบบัญชี และไม่ทราบว่าอีวาย คอร์ปอเรทฯ มีกรรมการที่ไม่มีประสบการณ์การเป็นที่ปรึกษาการฟื้นฟูธุรกิจขนาดแสนล้านบาท หรือ รัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่

นายชาญศิลป์ ให้เหตุผลว่าเข้ามาเป็นผู้บริหาร THAI หลังจากที่แต่งตั้ง อีวาย คอร์ปอเรทฯ เป็นหนึ่งในผู้ทำแผนฟื้นฟูกิจการ ส่วนเมื่อมีการแต่งตั้งผู้ทำแผนแล้ว อีวาย คอร์ปอเรทฯ จะต้องร่วมลงนามในแผนด้วยหรือไม่นั้น นายชาญศิลป์ ตอบว่าไม่ทราบ แต่ยืนยันว่ายังไม่ได้มีการจ่ายเงินค่าจ้างให้กับอีวาย คอร์ปอเรชั่นฯ แต่อย่างใด

นอกจากนี้ ทนายฝ่ายเจ้าหนี้ที่คัดค้าน ยังสอบถามว่าหาก THAI ฟื้นฟูกิจการไม่สำเร็จ จะมีการขอยืดระยะเวลาการฟื้นฟูเพิ่มเติมหรือไม่ นายชาญศิลป์ ตอบว่า กระบวนการฟื้นฟูมีขั้นตอนตามกฎหมาย หากกฎหมายให้ยืดระยะเวลาได้ก็คงจะต้องทำ ส่วนแหล่งที่มาของเงินที่ THAI จำเป็นต้องใช้เงินหมุนเวียนปีละ 6 หมื่นล้านบาท และยังมีหนี้สะสมอีก 3.5 แสนล้านบาทนั้น นายชาญศิลป์ ตอบว่า แหล่งที่มาชำระหนี้ขณะนี้ยังไม่มี แต่อนาคตต้องมีแน่นอน

ด้านนายปิยะสวัสดิ์ ตอบข้อซักถามประเด็นเดียวกันว่า ได้รับรายงานเรื่องการคัดเลือกอีวาย คอร์ปอเรทฯ เข้ามาเป็นคณะผู้ทำแผน โดยทราบว่าเป็นบริษัทมีประสบการณ์และมีชื่อเสียงระดับโลก ส่วนกรณีมีการตั้งคำถามว่าอีวาย คอร์ปอเรทฯ เป็นคนละบริษัทกับสำนักงานอีวายที่เป็นผู้ตรวจสอบบัญชี และมีเครือข่ายระดับโลก นายปิยสวัสดิ์ ยอมรับว่าทราบข้อมูลนี้

ส่วนประเด็นที่อีวาย คอร์ปอเรทฯ ระบุว่า มีประสบการณ์ช่วยฟื้นฟูกิจการมา 3 บริษัท เช่น บริษัทสหฟาร์ม แต่ล้มเหลวนั้น นายปิยะสวัสดิ์ ตอบว่าทราบ ส่วนที่ว่าสามารถชำระเงินให้เจ้าหนี้ได้เพียงเล็กน้อยนั้น นายปิยสวัสด์ กล่าวว่า อยู่กระบวนการชำระหนี้ ยังไม่เสร็จเรียบร้อย

นอกจากนี้ นายปิยสวัสดิ์ ยังกล่าวว่า ค่าตอบแทนจ้างอีวาย คอร์ปอเรทฯ เข้ามาทำแผนฟื้นฟู THAI นั้น ในฐานะที่เป็นกรรมการ THAI ทราบข้อมูลว่าจะมีการจ่ายผลตอบแทนตามสัญญา จำนวน 22 ล้านบาท โดยแบ่งจ่ายเป็นงวด และจ่ายค่าดำเนินการ 15 ล้านบาท/เดือน ตั้งแต่ศาลแต่งตั้งผู้ทำแผนจนกว่าศาลจะเห็นชอบแผน อย่างไรก็ดี รายละเอียดส่วนนี้ไม่ได้ระบุในแผน เพราะรอให้ศาลอนุมัติแผนก่อน เพราะยังไม่มีการจ่ายค่าว่าจ้างแต่อย่างใด

ขณะที่แหล่งเงินทุนในการฟื้นฟูกิจการ ปัจจุบันมีการพูดคุยสถาบันการเงินในประเทศแล้วหลายแห่ง ได้รับคำตอบที่ดีว่าหลายสถาบันการเงินพร้อมให้การสนับสนุน หากศาลและเจ้าหนี้เห็นชอบแผนฟื้นฟูครั้งนี้ก็จะเป็นโอกาสที่ THAI จะได้รับโอกาสจากสถาบันการเงินในการสนับสนุนแหล่งเงินทุนในช่วงวิกฤติโควิด

ส่วนคำถามที่ว่าหากการฟื้นฟูกิจการครั้งนี้ไม่สำเร็จจะขอฟื้นฟูกิจการอีกหรือไม่ นายปิยสวัสดิ์ กล่าวว่า หากแผนฟื้นฟูได้รับการเห็นชอบ จะทำให้ THAI สามารถเดินหน้าตามที่กำหนดไว้ และช่วยลดต้นทุน เพื่อให้เดินหน้าเจรจาเจ้าหนี้เรื่องการชำระหนี้ได้ ซึ่งจะทำให้สามารถหาเงินเข้ามาบริหารจัดการธุรกิจ โดยมั่นใจว่าแผนจะสำเร็จ รวมทั้งมองว่าการฟื้นฟูกิจการไม่ได้เป็นเพียงการยืดชำระหนี้ แต่เป็นโอกาสปรับโครงสร้างองค์กร ลดค่าใช้จ่าย ปรับปรุงเส้นทางบินใหม่ให้เหมาะสม ซึ่งจะเป็นผลต่อการประหยัดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาในอนาคต

ด้านนางสาวชุติมา ตอบข้อซักถามกับทนายฝ่ายเจ้าหนี้กรณีที่มีกระแสข่าวว่าการจัดจ้างอีวาย คอร์ปอเรทฯ ไม่ถูกต้องว่า อีวาย คอร์ปอเรทฯ ได้รับการติดต่อจาก THAI ให้มาเป็นผู้ทำแผนฟื้นฟูพร้อมกับบริษัทอีกราย ซึ่งเป็นงานที่ผู้ทำแผนทราบว่าจะต้องทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านการบิน ซึ่งระบุชัดเจนอยู่แล้ว โดย THAI ได้ทำสัญญาว่าจ้างหลังจากพ้นสภาพจากการเป็นรัฐวิสาหกิจ และชี้แจงว่า สาเหตุที่ไม่มีประสบการณ์เข้าบริหารแผนฟื้นฟูกิจการระดับแสนล้านบาท เพราะไม่ค่อยมีกิจการระดับนี้เข้ามาฟื้นฟูกิจการ

ทั้งนี้ ศาลล้มละลายกลางยุติการไต่สวนวันแรกในเวลาประมาณ 13.00 น.เศษ หลังจากเริ่มมาตั้งแต่ช่วงเช้า และได้นัดไต่สวนตามคำร้องของเจ้าหนี้อีกครั้งในวันที่ 20 ส.ค. 63 เวลา 9.00 น.และ วันที่ 25 ส.ค.นี้ เวลา 9.00 หลังจากนั้นศาลฯจะระบุวันพิพากษาต่อไป

Back to top button