“เมย์แบงก์ฯ” เคาะเพดานราคา JMART สูงลิ่ว 17.60 บ. มองครึ่งปีหลังโตเด่นรับกระแส iPhone 12

“เมย์แบงก์ฯ” มองเพดานราคา JMART สูงลิ่ว 17.60 บ. มองครึ่งปีหลังโตเด่นรับกระแส iPhone 12


บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ มองกรอบราคาหุ้น บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART เท่ากับ 16.20-17.60 บ./หุ้น โดยให้ส่วนลด 30% จากมูลค่าปัจจุบัน/เหมาะสม ของบริษัทที่จดทะเบียนฯ ทั้ง JMT-SINGER-J ณ ราคาปัจจุบัน และการประเมินมูลค่าเบื้องต้นของธุรกิจอื่นๆ ในเครือ ทั้ง Mobile และ Jfintech ทั้งนี้ยังมีส่วนที่เป็น Upside risk ต่อมูลค่าบริษัทที่มีนัยสำคัญในอนาคตอย่าง Jventures และการเติบโตของธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลหลัง KB Kookmin Card เข้ามาดำเนินธุรกิจในปี 2564

ทั้งนี้ มองว่า JMT-SINGER เป็นบริษัทในเครือที่พาตัวเองเข้าสู่ Growth stage ได้สำเร็จ และสามารถเติบโตได้สวนกลุ่ม Finance ที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 เป็นผลมาจากทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานเก็บหนี้ของ JMT รวมถึงการแก้ปัญหาหนี้เสีย – เริ่มดำเนินธุรกิจสินเชื่อจำนำทะเบียนรถของ SINGER ประเมินกำไรสุทธิใน 3 ปี ข้างหน้า (2563-65) โตเฉลี่ย 30% และ 48% ตามลำดับ เป็นเครื่องยนต์หลักที่หนุนกำไร JMART ขยายตัวเฉลี่ย 20% ต่อปี

อย่างไรก็ตาม แม้ไตรมาส 2/63 สาขาเกือบทั้งหมดของ JMART ถูกปิด แต่การปรับโครงสร้างต้นทุน ทำให้ธุรกิจดังกล่าวยังมีกำไรสุทธิ 8 ล้านบาท ซึ่งมีแนวโน้มฟื้นตัวได้แรงเทียบกับไตรมาสก่อนในไตรมาส 3/63 ตามรายได้ที่ฟื้นได้ไวกว่าต้นทุน ขณะที่ไตรมาส 4/63-64 การเปิดตัวของ iPhone 12 และเข้าสู่รอบการเปลี่ยนสมาร์ทโฟน 5G ควบคู่กับการพัฒนาช่องทางขายผ่าน Online ที่มีต้นทุนต่ำกว่าและ Product mix ที่ดีขึ้นเป็นบวกต่ออัตรากำไร และมีกำไรสุทธิจากธุรกิจมือถือไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาท/ปี

ส่วนกรณี JMART ได้จับมือกับ KB Kookmin Card ซึ่งเป็นผู้ให้บริการ Credit card และสินเชื่อส่วนบุคคลระดับ Top3 ของเกาหลี ที่มีทั้งความพร้อมด้านเงินทุน-เทคโนโลยีจะส่งผลบวกต่อการเติบโต และความสามารถการแข่งขันอย่างก้าวกระโดดเราคาดดีลจะเสร็จสิ้นภายในไตรมาส 3/63 โดย KB ร่วมลงทุน 51% ผ่าน Jfintech โดย JMART เหลือ 44% และมีบันทึกกำไรพิเศษ ก่อนจะเริ่มเปิดตัวผลิตภัณฑ์การเงิน เพื่อเจาะตลาดไทยช่วงต้นปี 2564 ที่จะเป็น Upside risk สำคัญในอนาคต

Back to top button