CPW มั่นใจผลงานโค้งสุดท้ายแกร่ง รับ iPhone12 วางขาย-มาตรการ “ช้อปดีมีคืน” หนุน

CPW มั่นใจผลงานโค้งสุดท้ายแกร่ง รับ iPhone12 วางขาย-มาตรการ “ช้อปดีมีคืน” หนุน


นายปรเมศร์ เหรียญเจริญสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอปเปอร์ ไวร์ด จำกัด (มหาชน) หรือ CPW เปิดเผยถึง การประกาศเปิดตัวไอโฟน รุ่น 12 (iPhone 12) และสินค้ารุ่นใหม่ของ Apple  ที่รองรับระบบ 5G ในครั้งนี้ บริษัทฯ พร้อมจำหน่ายสินค้าให้กับสาวกทั่วประเทศ ผ่านร้าน Apple Brand Shop ซึ่งปัจจุบันมีจำนวน 17 สาขา (แบ่งเป็น iStudio by copperwired จำนวน 15 สาขา และ U-Store by copperwired จำนวน 3 สาขา)

โดยในปีนี้ บริษัทฯ ได้รับปัจจัยบวก เตรียมพร้อมวางจำหน่าย iPhone ในร้าน .life ควบคู่ไปกับร้าน Apple Brand Shop ซึ่งปัจจุบันมีจำนวน 23 สาขา อีกทั้ง ร้าน .life ยังเป็นผู้นำในการจำหน่ายสินค้าดิจิทัลไลฟ์สไตล์ รวมถึง อุปกรณ์เสริมมือถือ และแก็ดเจ็ตต่างๆ ที่หลากหลายที่สุด ซึ่งในปีนี้ .life เตรียมอุปกรณ์เสริมมากมายสำหรับ iPhone 12 เอาใจสาวก Apple  เพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขายสินค้ากลุ่ม iPhone และดีไวซ์ ที่รองรับ 5G ได้อย่างครอบคลุมยิ่งขึ้น

“เป็นที่จับตามองของสาวก Apple เป็นอย่างยิ่ง ในการประกาศวันวางจำหน่าย iPhone12 ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นรุ่นเรือธงของ Apple ที่รองรับระบบ 5G  เรามองว่าจะเป็นปัจจัยบวกที่เข้ามากระตุ้นตลาดมือถือในช่วงปลายปีให้คึกคัก โดยคอปเปอร์ ไวร์ดได้อานิสงส์จากการเป็นตัวแทนจำหน่ายของ Apple ในประเทศไทย และในปีที่ผ่านมา iPhone11 เป็นรุ่นที่ประสบความสำเร็จที่สุดของเรา ซึ่งจัดจำหน่ายผ่าน Apple Brand Shop ภายใต้การบริหารของบริษัทฯ และปีนี้เราเตรียมจำหน่าย iPhone ผ่านร้าน .life ในวันแรกของการเปิดตัวสินค้า

ทำให้มีสาขาที่พร้อมจำหน่าย iPhone12 ในปีนี้รวมแล้ว 40 สาขา มากกว่าปีที่แล้วเท่าตัว และยังมีช่องทางการขายผ่านออนไลน์เข้ามาตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครอบคลุมยิ่งขึ้น แม้จำนวนวันในการขายปีนี้จะน้อยลงเมื่อเทียบกับวันวางจำหน่ายของปีที่แล้ว แต่เรายังได้รับอานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ เชื่อว่าลูกค้าจะตัดสินใจซื้อสินค้าเทคโนโลยีในช่วงปลายปีมากขึ้น รับเทรนด์ 5G ผู้บริโภคเปลี่ยนดีไวซ์ ปลุกกระแสสินค้ากลุ่ม IoT และ Ai เป็นโอกาสขยายการเติบโตต่อเนื่องในอนาคต” นายปรเมศร์ กล่าว

ทั้งนี้ คอปเปอร์ไวร์ด ยังได้รับอานิสงส์จากโครงการ “ช้อปดีมีคืน” ซึ่งเป็นมาตรการของภาครัฐบาล เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายสำหรับบุคคลที่เสียภาษีเงินได้ ด้วยการนำค่าซื้อสินค้าและบริการมาลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามจำนวนจ่ายจริงรวมกันไม่เกิน 30,000 บาทต่อคน เริ่มตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม ถึง 31 ธันวาคม 2563 เป็นอีกแรงสนับสนุนสินค้าเทคโนโลยีให้ได้รับการตอบรับในช่วงปลายปีเพิ่มมากขึ้น

Back to top button