ITEL ตั้งเป้ารายได้ปีนี้แตะ 2.8 พันลบ. เดินหน้าประมูลงานต่อเนื่อง ปักธงกำไรขั้นต้นโต 15%

ITEL ตั้งเป้ารายได้ปีนี้แตะ 2.8 พันลบ. หลังตุนแบ็กล็อกแน่น 1.66 พันลบ. เดินหน้าประมูลงานใหม่ต่อเนื่อง ปักธงกำไรขั้นต้นโต 15%


นายณัฐนัย อนันตรัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเตอร์ลิงค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ITEL นำเสนอข้อมูลในงานริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุน (Opportunity Day) กับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 4/63 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 660 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 111 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/62 ที่มีรายได้ 549 ล้านบาท ซึ่งมีการเติบโตจากทั้ง 3 ธุรกิจของบริษัท

ทั้งนี้ ได้แก่ 1.ธุรกิจดาต้า เซอร์วิส มีการเติบโตของรายได้ประมาณ 72 ล้านบาท คิดเป็น 12% 2.ธุกิจงานติดตั้ง มีรายได้เพิ่มขึ้น 36 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโตอยู่ที่ 33% 3.ธุรกิจดาต้า เซ็นเตอร์ เพิ่มขึ้นประมาณ 3 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโตยู่ที่ประมาณ 13% โดยมีสาเหตุหลักมาจากจำนวนลูกค้าหรือวงจรการให้บริการต่างๆที่เพิ่มสูงขึ้น

สำหรับกำไรในไตรมาส 4/63 อยู่ที่ 35 ล้านบาท ปรับตัวลดลงประมาณ 10 ล้านบาท เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/62 ที่มีกำไรอยู่ที่ 45 ล้านบาท ขณะที่กำไรในปี 2563 อยู่ที่ 183.73 ล้านบาท คิดเป็นการเพิ่มขึ้น 1.51% เมื่อเทียบกับปี 2562 ที่มีกำไรอยู่ที่ 181 ล้านบาท

สำหรับปี 2564 นี้ บริษัทตั้งเป้ามีรายได้อยู่ที่ 2,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 750 ล้านบาท โดยมาจากการรอรับรู้จากธุรกิจดาต้า เซอร์วิส อยู่ที่ประมาณ 1,000 กว่าล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนของรายได้ที่ประมาณ 60% ซึ่งจะมีการเพิ่มเข้ามาของลูกค้ารายใหม่ และมาจากธุรกิจ Engineering อยู่ที่สัดส่วนประมาณ 40%

นอกจากนี้ ณ สิ้นปี 2563 บริษัทมีงานรอรับรู้ในมือ (Backlog) อยู่ที่ 659.76 ล้านบาท อีกทั้งมี Backlog ใหม่ๆที่เพิ่มเข้ามาในช่วงระหว่างไตรมาส 1/64 อยู่ที่ประมาณ 73 ล้านบาท ซึ่งก็เชื่อว่าทิศทางในการเพิ่มงานเข้ามาในปีนี้ น่าจะเป็นทิศทางเดียวกันกับปี 2563 หรืออาจจะดีกว่า ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับโครงการที่บริษัทได้ดำเนินการหรือเข้าไปนำเสนอ ซึ่งอยู่ระหว่างรอปีงบประมาณ

ทั้งนี้ ในปี 2564 บริษัทมี Backlog ในส่วนของธุรกิจดาต้า เซอร์วิส อยู่ที่ 1,027 ล้านบาท ขณะที่ธุรกิจดาต้า เซ็นเตอร์ อยู่ที่ 65.77 ล้านบาท รวมถึงธุรกิจติดตั้งที่มีสัญญา และมีแผนแล้ว อยู่ที่ประมาณ 570.65 ล้านบาท ส่งผลให้มีรายได้ในส่วนนี้ (กรณีรับรู้ตามสัญญา) อยู่ที่ 1,663.43 ล้านบาท

“Backlog ที่มีอยู่นั้น มีแผนการรับรู้รายที่ค่อนข้างชัดเจน โดยไม่นับรวมงานใหม่ๆที่จะเข้ามา ซึ่งทำให้สามารถคิดต่อยอดว่าในการที่จะขยายการเติบโตของบริษัทไปในทิศทางไหน อย่างไร มีของเก่าเท่าไร มีของใหม่ที่จะเพิ่มเข้ามาจะต้องไปโฟกัสที่ไหน แอเรียไหน อย่างไรบ้าง”

ส่วนอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ในปี 2564 คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 14-15% ซึ่งขึ้นอยู่กับ Nature หรือช่วงของการส่งมอบโครงการ โดยจะพยายามควบคุม GP Margin ของแต่ละโครงการให้ไม่น้อยกว่า 20% ทั้งนี้ ในส่วนของโครงการขนาดใหญ่อาจจะมี Margin น้อยกว่า 20% อย่างไรก็ดี ในการได้โครงการขนาดใหญ่มา แต่สามารถต่อยอดในส่วนของรายได้ประจำ หรือรายได้ต่อเนื่องได้ ถือเป็นสาระสำคัญที่บริษัทยอมรับ Margin ที่ต่ำ แต่มองเห็นผลในระยะยาว

Back to top button