AEC ปิดเช้าชนซิลลิ่ง! หลังบอร์ดล้มแผนลดพาร์

AEC ปิดเช้าชนซิลลิ่ง! หลังบอร์ดล้มแผนลดพาร์ โดยราคาหุ้นปิดภาควันนี้ (31พ.ค.64) อยู่ที่ระดับ 1.36 บาท บวก 0.31 บาท หรือ 29.52% โดยราคาหุ้นพุ่งชนซิลลิ่งของวันที่ระดับ 1.36 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 132.02 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้นบริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) หรือ AEC ปิดภาควันนี้ (31พ.ค.64) อยู่ที่ระดับ 1.36 บาท บวก 0.31 บาท หรือ 29.52% โดยราคาหุ้นพุ่งชนซิลลิ่งของวันที่ระดับ 1.36 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 132.02 ล้านบาท

บล.เออีซี (AEC) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 7/2564 มีมติให้นำเสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัทพื่อพิจารณาการยกเลิกมติที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2564 เกี่ยวกับการลดทุนจดทะเบียนและทุนชำระแล้ว โดยยกเลิกการลดมูลค่าที่ตราไว้ของหุ้นของบริษัท (ลดพาร์) จากมูลค่าที่ตราไว้มูลค่าหุ้นละ 5 บาท เป็นมูลค่าหุ้นละ 1 บาท

เนื่องจากหากมีการคัดค้านจากเจ้าหนี้ บริษัทจะต้องเจรจากับเจ้าหนี้แต่ละรายเพื่อทำการชำระหนี้หรือวางหลักประกัน ซึ่งการชำระหนี้หรือวางหลักประกันอาจส่งผลกระทบในทางลบต่อการสู้คดีของ บริษัทฯ ในกรณีที่คดีความยังไม่ถึงที่สุด 

ดังนั้น เมื่อพิจารณาถึงผลกระทบที่เกิดจากการเจรจากับเจ้าหนี้แต่ละรายเพื่อทำการชำระหนี้ หรือวางหลักประกันโดยเฉพาะเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาและเพื่อเป็นการพิทักษ์สิทธิและผลประโยชน์ของบริษัทฯ ตามกฎหมาย

อีกทั้งในการพิจารณาทางด้านภาษีอากร การที่บริษัทมีขาดทุนสะสมจะสามารถนำผลขาดทุนสะสมที่มีมาใช้เพื่อประโยชน์ของบริษัทฯ ในเชิงภาษีตามที่กฎหมายกำหนดไว้ได้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในอนาคตหากสามารถสร้างผลประกอบการที่มีกำไรก็จะได้รับยกเว้นภาษีได้ไม่เกิน 5 รอบระยะเวลาบัญชี แม้ว่าจะไม่มีการลดทุนเพื่อล้างขาดทุนสะสมทางบัญชี ทั้งนี้ ตามงบการเงินเฉพาะกิจการสำหรับไตรมาส 1/64 สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มี.ค.64 บริษัทมีขาดทุนสะสมทางบัญชีอยู่จำนวน 920.29 ล้านบาท

นอกจากนี่เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากเหตุการณ์ที่อาจจะกระทบต่อผลประโยชน์ตอบแทนของผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิในการจองซื้อหุ้นสามัญของบริษัทหลักทรัพย์ เออีซี ครั้งที่ 6 (AEC-W6)

และหากบริษัทฯ ดำเนินการตามแผนการปรับโครงสร้างทุนตามที่ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2564 ทุกประการ ยกเว้นการลดทุนด้วยการลดมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ กล่าวคือ ดำเนินการเรื่องการเพิ่มทุนชำระแล้ว และการรวมมูลค่าหุ้นที่ตราไว้จะไม่ปรากฏว่ามีข้อแตกต่างต่อส่วนของผู้ถือหุ้น แต่จะมีผลต่อยอดขาดทุนสะสมและส่วนต่ำกว่ามูลค่าหุ้นของบริษัทฯ ที่จะไม่เปลี่ยนแปลง

อย่างไรก็ตาม จากการประเมินตามข้อเท็จจริงพบว่า หากบริษัทสามารถเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ผู้ถือหุ้นเดิมได้ครบทั้งจำนวน 2,856,581,019 หุ้น ในราคาหุ้นละ 0.35 บาท จะส่งผลให้อัตราส่วนส่วนของผู้ถือหุ้นต่อทุนชำระแล้ว หักด้วยส่วนต่ำมูลค่าหุ้นทั้งหมดจะมีค่ามากกว่า 50% ซึ่งบริษัทจะประสานงานกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามคุณสมบัติของหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องในการพิจารณาการพ้นเกณฑ์ C ต่อไป

นอกจากนั้น ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทอนุมัติการเปลี่ยนแปลงชื่อบริษัทฯ และแก้ไขบริคณห์สนธิเพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงชื่อบริษัท เป็น บล.บียอนด์ 

Back to top button