VIBHA พุ่ง 6% โบรกฯมองรายได้ Q2 โต รับยอดตรวจ-รักษาโควิดพุ่ง

VIBHA บวก 6% โบรกฯชูรายได้ไตรมาส 2 โต จากการตรวจและรักษาโควิด  คาดหวังโควิดคลี่คลายหนุนคนไข้ใน-นอกกลับสู่ภาวะปกติ พร้อมลุ้นรับส่วนแบ่งกำไรบริษัทร่วม


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (23 มิ.ย.64) ราคาหุ้น บริษัท โรงพยาบาลวิภาวดี จำกัด (มหาชน) หรือ VIBHA ณ เวลา 15.30 น. อยู่ที่ระดับ 2.28 บาท เพิ่มขึ้น 0.12 บาท หรือ 5.56% โดยทำจุดสูงสุดที่ 2.32 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 2.16 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 307.06 ล้านบาท

บริษัท หลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ (21 มิถุนายน 2564) โดยประเมิน VIBHA ว่าด้วยแนวโน้มรายได้ไตรมาส 2/2564 เติบโตจากงวดเดียวกันของปีก่อนและไตรมาสก่อนตามจำนวนคนไข้ IPD และ OPD ที่ฟื้นตัวขึ้นจากฐานต่ำในปี 2563 เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ประกอบกับ VIBHA มีรายได้จากการตรวจเชื้อโควิด-19 ซึ่งในช่วง เดือน เม.ย.- พ.ค. 2564 มียอดตรวจแบบ Drive-thru รวมราว 1.4 หมื่นรายเทียบกับงวดไตรมาส 1/2564 ที่มียอดตรวจ 1.5 พันราย 

ขณะที่กำลังการรองรับผู้ป่วยโควิด-19 ทั้ง VIBHA และ รพ.ในเครือทั้งหมด โดยแบ่งเป็นกลุ่มสีเขียว Hospitel รองรับ 400-500 คน (1 ห้อง 2 คน) กลุ่มสีเหลือง 150 เตียง และกลุ่มสีแดง ICU 80-90 เตียง ซึ่งปัจจุบันมีการใช้บริการเกือบเต็มทำให้คาดว่า VIBHA จะมีรายได้จากการตรวจและการรักษาเชื้อโควิด-19 ในงวดไตรมาส 2/2564 คิดเป็น 20-30% ของรายได้จากการรักษาพยาบาลรวม

ทั้งนี้แนวโน้มครึ่งปีหลัง 2564 ต้องติดตามสถานการณ์โควิด-19 อีกครั้ง ซึ่งปัจจุบันมีให้บริการตรวจภูมิหลังฉีดวัคซีนโควิด คิดราคา 1,500 บาท/ครั้ง อีกทั้งเปิดให้จองวัคซีน Moderna ในช่วง 16-27 มิ.ย. 2564 โดยคิดราคา 3,800 บาท/2 โดส โดยปัจจุบันมียอดจองแล้ว 10,000 โดส ซึ่งจะเริ่มส่งมอบล็อตแรกช่วงเดือน ต.ค. 2564  และส่วนแบ่งกำไรขาดทุนจากบริษัทร่วมในปีนี้คาดจะพลิกเป็นบวกจากปี 2563 ขาดทุน 62 ลบ. เนื่องจากเคสผู้ป่วยโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นประกอบกับปีก่อนมีค่าใช้จ่ายพิเศษจากการถูกเรียกคืนเงินค่าภาระโรคร้ายแรง (DRG>2) ราว 30 ลบ. 

โดยฝ่ายวิจัยมีความเห็นมุมมองแบบ “Neutral” ซึ่งสำหรับแนวโน้มปี 2564 คาดหวังสถานการณ์โควิด-19 ที่คลี่คลายลง จะช่วยหนุนจำนวนคนไข้ในและคนไข้นอกให้กลับสู่ภาวะปกติ ส่วนการเปิดจองวัคซีน Moderna อีกครั้งมองเป็น Neutral เช่นกันเนื่องจากนโยบายภาครัฐที่เร่งฉีดวัคซีนก่อนหน้านี้ส่งผลให้แนวโน้มผู้ที่ต้องการฉีดวัคซีนกับ รพ.เอกชนลดลง

Back to top button