SSP บวกแรง 8% รับเทกฯ โรงไฟฟ้าชีวมวล 9.9 MW คาดรับรู้รายได้ทันที

SSP บวกแรง 8% หลังผู้ถือหุ้นไฟเขียวทุ่มงบ 500 ลบ. เทกฯ โรงไฟฟ้าชีวมวล 9.9 MW พร้อมรับรู้รายได้ทันที กางแผนครึ่งปีหลังทยอย COD โรงไฟฟ้าญี่ปุ่น-เวียดนาม เดินหน้าหาโอกาสขยายลงทุนต่อเนื่อง มั่นใจดันรายได้-กำไรสร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(6 ก.ค.64) ราคาหุ้นบริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SSP ณ เวลา 15.11 น. อยู่ที่ระดับ 15.30 บาท บวก 1.20 บาท หรือ 8.51% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 901.15 ล้านบาท

โดยนายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SSP เปิดเผยว่าที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2564 เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2564 ได้มีมติอนุมัติให้บริษัทฯ เข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาดกำลังการผลิต 9.9 เมกกะวัตต์  โดยการซื้อหุ้นทั้งหมดในบริษัท ยูนิ พาวเวอร์ เทค จำกัด (ยูพีที) จากกลุ่มผู้ถือหุ้นของยูพีที รวมถึงสิทธิในการรับชำระหนี้เงินกู้ในส่วนที่ยูพีทียังคงค้างชำระแก่ผู้ถือหุ้นของยูพีทีด้วย มูลค่าลงทุนรวม 500 ล้านบาท

โดยคาดว่าจะเข้าทำรายการเพื่อให้ได้มาซึ่งหุ้นของยูพีที จำนวน 119,070 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1,000 บาท คิดเป็นสัดส่วน 49% ภายในเดือน กรกฎาคม 2564 และคาดว่าจะเข้าทำรายการเพื่อให้ได้ ซึ่งหุ้นของยูพีทีจำนวน 123,930 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1,000 บาท คิดเป็นสัดส่วน 51% ภายในเดือนพฤษภาคม 2565 รวมเป็นการเข้าซื้อหุ้นของยูพีทีทั้งสิ้นจำนวน 243,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 100%

ทั้งนี้ บริษัท ยูนิ พาวเวอร์ เทค จำกัด (ยูพีที) ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานชีวมวล โดยดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาดกำลัง 9.9 เมกกะวัตต์ ตั้งอยู่ตำบลสี่คิ้ว อำเภอสี่คิ้ว จังหวัดนครราชสีมา โดยเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ในวันที่ 24 พฤษภาคม 2562 มีระยะเวลาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเป็นจำนวน 20 ปีนับแต่วัน COD

การเข้าลงทุนโรงไฟฟ้าชีวมวลในครั้งนี้จะให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า ซึ่งเบื้องต้นได้มีการประเมินอัตราผลตอบแทน (IRR) ในระดับ 10% และคาดว่าจะใช้เวลาคุ้มทุนภายใน 7 ปี โดยราคารับซื้อไฟฟ้ารูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) ที่ 4.50 บาทต่อหน่วย ซึ่งการลงทุนในครั้งนี้จะทำให้บริษัทฯ สามารถรับรู้รายได้และกำไรจากการจำหน่ายไฟฟ้าเข้ามาทันที

อย่างไรก็ดีถึงแม้จะเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ระลอก 3 แต่บริษัทฯยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจตามแผนงานที่วางไว้ โดยช่วงครึ่งหลังของปีนี้ โรงไฟฟ้าในประเทศญี่ปุ่น กำลังการผลิต 20 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าในเวียดนาม กำลังการผลิต 48 เมกะวัตต์ เตรียมขายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ตามแผน ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตรวมทะลุ 200 เมกะวัตต์  จากปัจจุบันอยู่ที่ 143 เมกะวัตต์ อีกทั้งยังคงมองหาโอกาสการขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อผลักดันรายได้และกำไรสร้างสถิติสูงสุดใหม่ สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น” นายวรุตม์ กล่าว

สำหรับการเข้าลงทุนโรงไฟฟ้าชีวมวลของ SSP ถือเป็นไปตามเป้าหมายของบริษัทฯ ที่ต้องการขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนแบบครบวงจร อีกทั้งบริษัทฯ ยังคงมองหาการลงทุนในทุกรูปแบบที่ให้ผลตอบแทนคุ้มค่าต่อไป โดยวางเป้าหมายช่วง 3-5 ปีข้างหน้า กำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มเป็น 400 เมกะวัตต์ ผลักดันผลการดำเนินงานสร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง

Back to top button