PSL บวก 4% รับกำไร Q2 ดีกว่าโบรกฯคาด ค่าระวางเรือหนุน ชี้ครึ่งปีหลังสดใส

PSL วิ่ง 4% โบรกฯชูเป้า 26.25 บ. ชี้ไตรมาส 2/4 พลิกกำไรดีกว่าคาด แตะ 826 ลบ. ขานรับค่าระวางเรือหนุนขณะที่มองครึ่งปีหลังสดใสและกำลังเข้าสู่ฤดูกาลขนส่งในปลายปีอีกด้วย


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (10 ส.ค. 2564) ราคาหุ้นบริษัท พรีเชียส ชิพปิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSL ณ เวลา 10.55 น. อยู่ที่ระดับ 23.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.90 บาท หรือ 4.07% โดยทำจุดสูงสุดที่ 23.50 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 22.30 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 427.52 ล้านบาท

บริษัท หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ (10 ส.ค. 2564) โดย PSL ได้รายงานพลิกมีกำไรสุทธิไตรมาส 2/2564 ที่ 826 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิ 1.18 พันล้านบาท และแสดงภาพการ Turnaround ตามที่มองไว้โดยกำไรสุทธิสูงกว่าประมาณการของทางฝ่ายวิจัย 19% จากค่าระวางทำได้สูงถึง 17,841 เหรียญ/ ลำ/ วัน และดีกว่าคาด 16% ซึ่งแม้ว่าค่าระวางของเรือขนาด Handysize และ Supramaxของ PSLจะทำได้ต่ำกว่าตลาด 30% และ 21% ตามลำดับ แต่บริษัทอธิบายว่า หากปรับสะท้อนกับขนาดเรือของ PSL ที่เล็กกว่าตลาด และวันเดินเรือ 17% นั้นไปอิงกับสัญญาระยะยาวค่าระวางที่ PSL จะถือว่าดีกว่าตลาดไป 13% โดยเฉลี่ย

อีกทั้งผู้บริหารได้เผยประเด็นที่น่าสนใจว่า กลุ่มเรือ Handysizeและ Supramax ของ PSL เป็นกลุ่มเรือที่มีความเสี่ยงด้านอุปทานที่ต่ำ เพราะในตลาดเรือกลุ่มนี้มีเรืออายุมากกว่า 20 ปีใกล้ปลดระวางกว่า 9.00 -13.50% ของกองเรือโลก และจะสูงถึง 14.30 -17.80% ในปี 2566 ขณะที่คำสั่งต่อเรือใหม่มีเพียง 2.70 -5.80% เท่านั้น ดังนั้นโอกาสการเกิดอุปทานส่วนเกินใน 3 ปีนี้ ทางฝ่ายวิจัยมองว่าเป็นไปได้ยาก

ขณะที่อุปสงค์การขนส่งสินค้าแห้งเทกองทางทะเลยังคงเดินหน้าขยายตัว 4.30% ปีนี้้ และ 2.20% ในปีหน้า (ที่มา Clarkson) ขณะที่ระยะสั้นดัชนี BDI ปัจจุบันยังสูงกว่าค่าเฉลี่ยไตรมาส 2/2564 ราว 14.00% กอปรกับฤดูกาลขนส่งกกำลังรออยู่ในไตรมาส 4 เหมือนทุกปี ทำให้ทิศทางครึ่งปีหลัง 2564 ทางฝ่ายวิจัยมองว่าจะสดใส จึงปรับปรุงสมมติฐานค่าระวางปี 2564- 2565 ขึ้น 5.30% ขณะที่ต้นทุนคงที่ส่วนใหญ่เท่าเดิม ส่งผลให้กำไรปี 2564ถูกยกขึ้น 18.80% และปี 2565 ถูกยกขึ้น15.50% นอกจากนี้ทางฝ่ายวิจัย Roll-over ไปใช้ราคาเหมาะสมปี 2565 โดยการอิง P/BV ค่าเฉลี่ยกลุ่มที่ 2.84 เท่าตามเดิม ได้ราคาเหมาะสมใหม่ที่ 26.25 บาทต่อหุ้น

 

 

Back to top button