EA วิ่ง 3% โบรกฯชี้ Q3 โตเด่น! ธุรกิจ EV หนุนรายได้ทะลัก อัพเป้า 70 บ.

EA บวก 3% โบรกฯมอง Q3 โตเด่น! รับรู้รายได้ครั้งแรกของธุรกิจ EV หลังทยอยส่งมอบรสบัสไฟฟ้า พร้อมส่งมอบเรือโดยสารไฟฟ้า แนะนำ “ซื้อ” อัพเป้าใหม่ 70 บ.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (27 ส.ค. 2564) ราคาหุ้นบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ณ เวลา 12.11 น. อยู่ที่ระดับ 64.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท หรือ 2.80% โดยทำจุดสูงสุดที่ 65.50 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 65.25 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.21 พันล้านบาท

นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร EA เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลัง 2564 บริษัทฯพร้อมเดินหน้าโครงการแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน Amita Technology (Thailand) โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินการผลิตสำหรับระยะที่ 1 ได้ในไตรมาสที่ 3/2564

โดยปัจจุบันได้นำเข้าเซลล์แบตเตอรี่ที่ผลิตจากโรงงานผลิตแบตเตอรี่ของ Amita Technologies Inc. ไต้หวัน เพื่อนำมาประกอบเป็นแพ็คและโมดูลในสายการผลิตภายในประเทศ เพื่อตอบสนองการใช้ในกลุ่มธุรกิจยานยนต์ของบริษัทฯ ได้แก่ รถบัสไฟฟ้า เรือไฟฟ้า ในช่วงแรกระหว่างรอโรงงานผลิตเซลล์แบตเตอรี่เสร็จเรียบร้อย

สำหรับโครงการสถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า EA Anywhere ได้ร่วมมือกับบริษัท เชฟรอน (ไทย) จำกัด ผู้ให้บริการสถานีน้ำมันคาลเท็กซ์ ติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้า EA Anywhere ในสถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์ไปแล้ว 9 แห่ง และมีแผนที่จะเปิดให้บริการภายในสถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์สาขาอื่นๆ เพิ่มเติมอีกให้ครบ 20 แห่งภายในปี 2564

ส่วนโครงการเรือโดยสารไฟฟ้า MINE SMART FERRY ได้เริ่มเก็บค่าโดยสารในราคาโปรโมชั่น 20 บาทตลอดสาย และเมื่อวันที่ 17 พ.ค.2564 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ขยายจุดจอดเรือรับ-ส่งที่ต้นทางฝั่งเหนือจากท่าเรือนนทบุรีไปยังท่าเรือพระนั่งเกล้า ถึงท่าเรือสาทร ภายในไตรมาสที่ 3/2564 จะมีการส่งมอบเรือโดยสารไฟฟ้าครบจำนวน 27 ลำ ตามแผนที่กำหนดไว้

ด้านโครงการรถโดยสารไฟฟ้า ปัจจุบันได้มีการประกอบรถโดยสารไฟฟ้าแล้วเสร็จกว่า 100 คัน โดยจะเริ่มทยอยส่งมอบได้ในไตรมาส 3/2564 ช่วงเดือนสิงหาคม สำหรับโรงงานผลิตรถโดยสารไฟฟ้าและรถเพื่อการพาณิชย์ทุกประเภทอยู่ใน จ.ฉะเชิงเทรา การก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณ 90% โดยเมื่อโรงงานเสร็จเรียบร้อยจะมีกำลังการผลิตรถโดยสารไฟฟ้าอยู่ที่ปีละ 3,000 คันต่อปี

“มั่นใจว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังปีนี้จะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยได้รับปัจจัยหนุนจากธุรกิจแบตเตอรี่ รถบัสไฟฟ้า เรือไฟฟ้า ซึ่งถือเป็น New S-Curve ผลักดันธุรกิจเติบโตอย่างก้าวกระโดดตามแผนงานที่วางไว้ พร้อมคงเป้าหมายรายได้ในปีนี้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 20%” นายอมร กล่าว

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ (26 ส.ค. 2564) โดยจากการประชุมนักวิเคราะห์วานนี้ออกมาในลักษณะเชิงบวกโดยผลประกอบการไตรมาส 3/64มีโอกาสเติบโตทั้งจากไตรมาสก่อนและจากงวดเดียวกันของปีก่อน หนุนจากการรับรู้รายได้ครั้งแรกของธุรกิจ EV ทั้งนี้จึงปรับคำแนะนำขึ้นเป็น “ซื้อ” พร้อมราคาเป้าหมายใหม่ที่ 70 บาท

Back to top button