หุ้นยุโรปปิดบวกรับมุมมองธนาคารกลางเดินหน้าผ่อนคลายการเงิน

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (7 ต.ค.) โดยตลาดปิดในแดนบวกติดต่อกัน 3 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้ธนาคารกลางในหลายประเทศยังคงเดินหน้าใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินต่อไป


สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.6% ปิด (6 ต.ค.) ที่ 360.41 จุด, ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,660.64 จุด เพิ่มขึ้น 43.74 จุด หรือ +0.95%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,902.83 จุด เพิ่มขึ้น 88.04 จุด หรือ +0.90% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,326.16 จุด เพิ่มขึ้น 27.24 จุด หรือ +0.43%

ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงหนุนจากมุมมองที่ว่า ภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาในขณะนี้อาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ธนาคารกลางในหลายประเทศยังคงเดินหน้าใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งธนาคารกลางสหรัฐ (FED) หลังจากมีข้อมูลที่บ่งชี้ถึงความอ่อนแอของเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งรวมถึงตัวเลขจ้างงานที่ขยายตัวได้น้อยกว่าการคาดการณ์

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดของสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อวานนั้น กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการขาดดุลการค้าของสหรัฐพุ่งขึ้น 15.6% ในเดือนส.ค. สู่ระดับ 4.833 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. โดยได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของดอลลาร์, ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ดิ่งลง และการขยายตัวที่ซบเซาในต่างประเทศ ขณะที่กระทรวงพาณิชย์ยังระบุว่า การส่งออกลดลง 2% ในเดือนส.ค. สู่ 1.851 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2012 ขณะที่การนำเข้าเพิ่มขึ้น 1.2% สู่ 2.334 แสนล้านดอลลาร์

หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้น โดยหุ้นโททาล และหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ต่างก็พุ่งขึ้นอย่างน้อย 3.3%, หุ้นกลุ่มรถยนต์ปรับตัวขึ้น โดยหุ้นเรโนล์ท พุ่งขึ้น 5.8% หลังจากมีรายงานว่าเรโนลท์วางแผนที่จะปรับโครงสร้างการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจร่วมกับนิสสัน มอเตอร์ ขณะที่หุ้นเอสพีเอ เปอร์โยต์ ซีตรอง พุ่งขึ้น 3.9% และหุ้นเดมเลอร์ ปรับขึ้น 2.5% ด้านหุ้นเอสเอ็มบีมิลเลอร์ ร่วงลง 3.8% หลังจากมีรายงานว่าเอสเอ็มบีมิลเลอร์ปฏิเสธข้อเสนอเทคโอเวอร์จากบริษัท Anheuser-Busch InBev

Back to top button