BGC บวก 4% รับแผนปรับโครงสร้าง ดัน “BGE” ลุยพลังงานทดแทนเต็มสูบ

BGC บวก 4% รับแผนกลยุทธ์ปรับโครงสร้างธุรกิจภายในกลุ่มให้ “BGE” ลุยธุรกิจพลังงานทดแทนเต็มสูบ เนื่องจากจะมุ่งเน้นในการประกอบธุรกิจบรรจุภัณฑ์เป็นธุรกิจหลัก


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (10 ก.ย. 2564) ราคาหุ้นบริษัท บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส จำกัด (มหาชน) หรือ BGC ณ เวลา 12.27 น. อยู่ที่ระดับ 11.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท หรือ 3.67% โดยทำจุดสูงสุดที่ 11.50 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 11.00 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 88.64 ล้านบาท

โดยวันนี้ที่ราคาหุ้น BGC บนกระดานปรับตัวขึ้นนั้นเนื่องมาจาก ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทอนุมัติให้นำเสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2564 เพื่อพิจารณาและอนุมัติการปรับโครงสร้างธุรกิจพลังงานของบริษัทฯ

  1. บริษัทจะจำหน่ายหุ้นสามัญร้อยละ 100 ของจำนวนหุ้นที่ออกและจำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ บริษัท โซล่า พาวเวอร์ แมเนจเม้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (SPM) ให้แก่บริษัท บีจี เอ็นเนอร์ยี่ โซลูชั่น จำกัด (BGE) โดยจะได้ชำระเป็นหุ้นเพิ่มทุน BGE จำนวน 7,500,000 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 27.27% ของหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดของ BGE มูลค่าชำระราคาจำนวน 1,256.25 ล้านบาท

ทั้งนี้ SPM ดำเนินธุรกิจในลักษณะบริษัทโฮลดิ้ง (Holding Company) โดยถือหุ้น 67% ในบริษัท Phu Khanh Solar Power Joint Stock Company (PKS) จัดตั้งในเวียดนาม ประกอบกิจการโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 2 โครงการในจังหวัดฟูเยี้ยน ได้แก่ โครงการ XT 1 ซึ่งเริ่มต้นจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) วันที่ 11 มิ.ย. 2562 และ โครงการ XT 2 ซึ่งเริ่มต้น COD วันที่ 12 มิ.ย. 2562 ขนาดกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าเป็นเวลา 20 ปีนับจากวัน COD กับ Vietnam Electricity (EVN) รัฐวิสาหกิจการไฟฟ้าในเวียดนาม รวม 99.216 เมกะวัตต์ (กำลังการผลิตติดตั้งรวม 110.025 เมกะวัตต์)

  1. บริษัทจะจำหน่ายหุ้นสามัญจำนวน 27,500,000 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วน 7.35% ของจำนวนหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดของ BGE ให้แก่ บมจ.บางกอกกล๊าส (BG) มูลค่าหุ้นละ 167.50 บาท ซึ่งเท่ากับมูลค่าต่อหุ้นของ BGE ที่จะได้รับตามข้อ (1) ให้กับ BG ในจำนวน 338.35 ล้านบาท เนื่องจากนโยบายของบริษัทฯที่จะลงทุนในธุรกิจพลังงานในรูปแบบเชิงรับ (Passive Investment) ในสัดส่วนน้อยกว่า 20% ซึ่งมุ่งผลตอบแทนในรูปแบบเงินปันผลเพื่อให้บริษัทฯ สามารถมุ่งเน้นในการประกอบธุรกิจบรรจุภัณฑ์เป็นธุรกิจหลัก (Core business)
  2. การให้ SPM จะเข้าทำสัญญากู้ยืมเงินจาก BGE ในวงเงินไม่เกิน 270.00 ล้านบาท เพื่อให้ SPM มีเงินทุนในการชำระเงินกู้ยืมเดิมและดอกเบี้ยค้างชำระที่มีอยู่กับบริษัทฯ โดยการเข้าทำสัญญากู้ยืมเงินดังกล่าวจะมีต้นทุนทางการเงินไม่เกิน 68.92 ล้านบาท

ทั้งนี้กำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2564 ในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2564 เวลา 14.00 – 16.00 น.

อย่างไรก็ดีในปัจจุบัน BGE เป็นบริษัทย่อยของ BG ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทฯโดย BGE ประกอบกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน ซึ่งมีโครงการโรงไฟฟ้ารวมทั้งหมด 15 โครงการในปัจจุบัน โดยมีรายละเอียดดังนี้

  1. โครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบบนหลังคา (Solar Rooftop) ซึ่งอยู่ภายใต้การบริหารจัดการโดย BGE จำนวน 11 โครงการ มีกำลังการผลิตรวม 18.87 เมกะวัตต์
  2. โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามผ่านการถือหุ้นร้อยละ 70 ใน MYSON 1 Solar Power Joint Stock Company (MY SON 1) และ MY SON 2 Solar Power Joint Stock Company (MY SON 2) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่จดทะเบียนจัดตั้งในเวียดนาม ประกอบกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 2 โครงการ ได้แก่ โครงการ MS1 ซึ่งเริ่ม COD วันที่ 30 มิ.ย. 2563 และ โครงการ MS2 ซึ่งเริ่ม COD วันที่ 29 มิ.ย. 2563 ตามลำดับ ขนาดกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าให้กับ EVN เป็นเวลา 20 ปีนับจากวัน COD รวม 110 เมกะวัตต์ (กำลังการผลิตติดตั้งรวม 111.776 เมกะวัตต์)
  3. โครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบบนหลังคา (Solar Rooftop) จำนวน 1 โครงการ และโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานความร้อนเหลือทิ้งด้วยระบบวัฏจักรแรงดัน Organic Rankine Cycle (ORC) จำนวน 1 โครงการซึ่งมีกำลังการผลิตรวม 3.82 เมกะวัตต์ ผ่านการถือหุ้นร้อยละ 75 ในบริษัท บีจี เอ็นซิส จำกัด (BGES) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ BGE ในประเทศไทย

 

Back to top button