
“สรวงศ์ เทียนทอง” สั่งย้ายลงทะเบียน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ผ่านแอปทางรัฐแทน
รมว.ท่องเที่ยว สั่งปรับรูปแบบโครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ให้ลงทะเบียนผ่านแอปของรัฐแทนแพลตฟอร์มเดิม หลังการยืนยันตัวตนผ่าน ThaiID มีความขัดข้อง
ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (4 ก.ค.68) นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวผ่านรายการโทรทัศน์ ระบุว่า เตรียมปิดการลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” และ แอปฯ “Amazing Thailand” ภายในวันนี้ โดยจะให้ย้ายไปลงทะเบียนผ่าน แอปฯ “ทางรัฐ” แทน หลังมีปัญหาระบบการลงทะเบียนและเข้าใช้งานตั้งแต่เปิดโครงการเมื่อวันที่ 1 ก.ค. ที่ผ่านมา เนื่องจากการยืนยันตัวตนผ่าน ThaiID มีความขัดข้อง
โดยตอนนี้ ระบบค่อนข้างสับสนทั้งสำหรับผู้ประกอบการและประชาชน ดังนั้นวันนี้จึงอาจจะขอปิดเว็บไซต์ www.เที่ยวไทยคนละครึ่ง.com และแอปพลิเคชัน Amazing Thailand เพื่อแก้ไขและอาจนำแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” มาใช้ในการยืนยันตัวตน เพราะแอปทางรัฐมีการยืนยันตัวตนอยู่แล้ว ซึ่งจะทำให้ขั้นตอนการลงทะเบียนเร็วขึ้น
“คิดว่าน่าจะมีการปิดวันนี้ เดี๋ยวจะให้ททท. ทำสื่อ และประกาศกับประชาชน คนที่ลงทะเบียนใหม่จะยังลงไม่ได้ แต่จะไม่ให้กระทบกับคนที่ลงทะเบียนเสร็จแล้วที่จะจองที่พัก ทั้งนี้ ผมพยายามอย่างยิ่งที่จะทำให้ทุกอย่างมีความโปร่งใส ยอมรับว่าที่ผ่านมาททท. ยังมีคดีความของโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่งโครงการก่อนหน้า 1 พันกว่าคดี เพราะฉะนั้นรอบนี้การลงทะเบียนจึงซับซ้อน เนื่องจากทุกคนก็ต้องการที่จะป้องกันตนเอง ผมในฐานะเจ้ากระทรวงถือโอกาสขออภัยพี่น้องประชาชนด้วย จะพยายามแก้กลับมาให้เร็วที่สุด เพราะต้องมีการถ่ายโอนข้อมูลไปที่แอปฯ ทางรัฐ” นายสรวงศ์ กล่าว
นายสรวงศ์ กล่าวอีกว่า ตอนนี้มีคนที่เข้าถึงระบบจองสิทธิ์แล้วประมาณ 1.4 ล้านคน แต่มีคนที่ใช้สิทธิ์ทำการจองที่พักสำเร็จแล้วประมาณ 2 หมื่นกว่าคน โดยโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่งครั้งนี้ จะไม่เหมือนครั้งก่อน การลงทะเบียนก็คือการลงทะเบียนเพื่อขอใช้สิทธิ์ แต่สิทธิ์ 5 แสนสิทธิ์จะถูกใช้และหมดไปต่อเมื่อมีการจองโรงแรมและจ่ายเงิน
สำหรับเหตุผลที่ต้องสร้างแอปพลิเคชันใหม่ขึ้นมาในการลงทะเบียน เนื่องจากโครงการเดิมที่ทำมาทั้ง 5 เฟส การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ไม่มีฐานข้อมูลของนักท่องเที่ยว หรือลูกค้าอยู่ในมือเลย เพราะครั้งที่แล้วใช้แอปพลิเคชันเป๋าตัง ของธนาคารกรุงไทย ดังนั้น ททท. จึงจำเป็นต้องทำแอปพลิเคชันใหม่ เพื่อเก็บข้อมูลของนักท่องเที่ยวคนไทย และจะนำไปใช้ในโครงการต่อ ๆ ไปในระยะข้างหน้า