GPSC ร่วง 2% หลังหยุดผลิต “โกลว์พลังงาน ระยะ 5” โบรกฯ คาดกระทบกำไรปกติ Q3 ราว 300 ลบ.

GPSC ร่วง 2% มาที่ 78 บ. หลังหยุดผลิต“โกลว์พลังงาน ระยะ 5” นอกแผนการ โบรกฯ คาดกระทบกำไรปกติ Q3 ราว 300 ลบ. แต่มองเป็นโอกาสเข้าซื้อ จากแนวโน้มกำไรปกติทั้งปี 64-65 ยังเติบโตแกร่ง เคาะเป้า 69.50 บ.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราคาหุ้น บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC ล่าสุด ณ เวลา 15.15 น. อยู่ที่ 78 บาท ลบ 1.75 บาท หรือ 2.19% สูงสุดที่ 80 บาท ต่ำสุดที่ 77.50 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 1.42 พันล้านบาท

ทั้งนี้ราคาหุ้น GPSC ปรับตัวลง หลังจากบริษัทฯ แจ้งการหยุดเดินเครื่องนอกแผน (Unplanned Outage) โรงไฟฟ้าโกลว์พลังงาน ระยะที่ 5 ตั้งแต่วันที่ 14 สิงหาคม 2564 ซึ่งบริษัทฯ อยู่ระหว่างการซ่อมแซมและตรวจสอบสาเหตุร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคจากบริษัทผู้ผลิตเครื่องจักร และบริษัทประกันภัย โดยคาดว่าจะกลับมาเริ่มดำเนินการผลิตตามปกติได้ภายในช่วงต้นปี 2565

ด้าน บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ (16 ก.ย.2564) ว่า มอง Slightly Negative ต่อการปิดซ่อมนอกแผนของโรงไฟฟ้า  GE5  อีกครั้ง (ก่อนหน้ามีปิดนอกเหนือแผนในครึ่งปีหลังปี 2563 ถึงไตรมาส 1/2564) เพราะ 1) ตลาดอาจกังวลว่าโรงดังกล่าวยังมีชิ้นส่วนเสียหายที่อาจกระทบการผลิตไฟอีกในปี 2565 หรือไม่ จากชิ้นส่วนที่เสียหายครั้งนี้อยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับส่วนที่เสียหายก่อนหน้า อย่างไรก็ตามมองการเสียหายมาจากคนละชิ้นส่วนคาดประกันจะครอบคลุมค่าใช้จ่ายได้

รวมทั้ง 2) คาดกระทบกำไรปกติไตรมาส 3/2564 ราว -11% หรือ 300 ล้านบาท (กำไรที่สูญเสียไปใน 60 วันแรก ที่ประกัน BI ไม่ cover) เหลือราว 2,422 ล้านบาท (ลดลง 5% เมื่อเทียบจากปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบจากปีก่อน) Vs. ประมาณการคาด 2,722 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบจากปีก่อน และเพิ่มขึ้น 24% เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน)

ส่วนกำไรปกติปี 2564 กระทบคิดเป็นราว -3.5% เหลือ 8,257 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบจากปีก่อน) Vs. คาดการณ์ที่ 8,557 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 14% เมื่อเทียบจากปีก่อน) กระทบปี 2565 ราว -0.2 บาท/หุ้น ไม่ได้มีนัยสำคัญ ทั้งนี้โรง GE5 มีกำลังการผลิตคิดเป็นราว 5.7% /4.5% ของ equity MW ที่ COD แล้ว/ ทั้งหมด ตามลำดับ

อย่างไรก็ดีคงคำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น GPSC ที่ราคาเป้าหมายปี 2565 ที่ 96.50 บาท/หุ้น และเป็นหนึ่งใน top picks หากราคาหุ้นปรับตัวลงมากจากความกังวลการปิดซ่อมนอกเหนือแผนโรง GE5  มองเป็นโอกาสซื้อ คงมุมมองบริษัทมีความน่าสนใจ  จาก  1)  เข้าสู่ช่วงการฟื้นตัวของกำไรหลังการปิดซ่อมลดลงในปี 2564-2565  ประกอบกับมีโรงไฟฟ้าทยอย COD  เพิ่ม คาดกำไรปกติโตเฉลี่ยในปี 2564-2566 ราว 19% CAGR

รวมทั้ง 2) ในสภาวะของ COVID-19 ยังมีความไม่แน่นอน ฐานลูกค้าของ GPSC ได้รับผลกระทบน้อยกว่าอุตสาหกรรมอื่น และฟื้นตัวเร็วกว่า (ไตรมาส 1/2564 ถึงไตรมาส 2/2564 โตเมื่อเทียบจากปีก่อน และเมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน) และ 3) ธุรกิจ Battery (new S-curve) ที่หนุนการเติบโตในระยะยาว อยู่ในตลาดที่เติบโตสูงเป็นอันดับต้นของโลก อีกทั้ง 4)  port  โรงไฟฟ้าในมือมีโอกาส  ได้  replacement  สูงจากความสามารถในการแข่งขัน และฐานลูกค้ามั่นคง และ 5) มี upside จากโอกาสของธุรกิจใหม่ในอินเดีย

Back to top button