RT วิ่ง 4% โบรกฯแนะซื้อเป้า 2.50 บ. หลังรับงานต่อเนื่องหนุน “แบ็กล็อก” ปลายปีแตะ 7 พันลบ.

RT วิ่ง 4% หลังรับงานต่อเนื่อง หนุนแบ็กล็อกปลายปีนี้แตะ 7 พันล้านบาท หลังผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดของปีแล้วในไตรมาส 2/64 ก่อนทิศทางจะฟื้นตัวต่อเนื่องในไตรมาสที่ 3-4/64 และเติบโตในปี 2565 โดยโบรกฯ คงคำแนะนำซื้อที่ 2.50 บาท


ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (19 ต.ค. 64) ราคาหุ้นบริษัท ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ RT ณ เวลา 10:55 น. อยู่ที่ระดับ 2.32 บาท บวก 0.10 บาท หรือ 4.50% สูงสุดที่ระดับ 2.40 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 2.24 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 78.20 ล้านบาท

บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์วันที่ (21 ก.ย. 64) ว่า แบ็คล็อกปัจจุบันของ RT อยู่ที่ 3.6 พันล้านบาท โดยประกาศจ้างงานใหม่ในไตรมาสที่ 3/64 แล้ว 3 โครงการ มูลค่ารวม 615 ล้านบาท เป็นโครงการจ้างก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 42 คลองแงะ-จุดผ่านแดนสุไหง-โกลก มูลค่า 560 ล้านบาท เริ่มก่อสร้างในไตรมาสที่ 4/64 และงาน Slope Protection อีก 2 โครงการ รวม 55 ล้านบาท

ขณะที่มีงานที่ประมูลได้และอยู่ระหว่างรอเซ็นอีก 2 โครงการ มูลค่ารวม 616 ล้านบาท เป็นโครงการปรับปรุงดินชั้นฐานราก อ่างเก็บน้ำมรสวบ 96 ล้านบาท และวางท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดินสายสีส้ม 520 ล้านบาท คาดเซ็นสัญญาในปลายปีนี้ นอกจากนี้ มีโอกาสเข้าร่วมประมูลเพิ่มทั้งรถไฟทางคู่เด่นชัย รวมถึงงานอุโมงค์ในดินอ่อน และงาน Slope Protection หนุนให้แบ็คล็อกมีโอกาสเร่งขึ้นเป็น 7 พันล้านในปลายปีนี้

สำหรับผลกระทบจาก COVID-19 รุนแรงส่งผลให้งานระหว่างทำในพื้นที่กทม.หยุดชะงัก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นงานท่อร้อยสายไฟใต้ดิน คิดเป็นสัดส่วนราว 26% ของงานในมือทั้งหมด เนื่องจากเกิดการแพร่ระบาดในแคมป์คนงานก่อสร้างเดือน ก.ค. นอกจากนี ยังเผชิญปัญหาขาดแคลนแรงงานหลังแรงงานเดินทางกลับภูมิลำเนา รวมถึงมีมาตรการควบคุมที่เข้มงวดของรัฐซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการเคลื่อนย้ายแรงงาน ทำให้ก่อสร้างได้ไม่เต็มที่ บริษัทจึงปรับลดเป้าหมายรายได้ปี 2564 จากเดิมคาดเติบโต 20% เมื่อเทียบจากปีก่อน เป็นใกล้เคียงปี 2563 แต่ถือว่ายังสอดคล้องกับประมาณการรายได้ที่ 2.8 พันล้านบาท (-1% เมื่อเทียบจากปีก่อน)

ทั้งนี้ ประเมินว่าผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/64 จะเป็นจุดต่ำสุดของปีหลังได้ผลกระทบของการแพร่ระบาดในแคมป์คนงานของบริษัทเกือบทั้งไตรมาส ขณะที่แนวโน้มในไตรมาส 3/64 คาดทยอยฟื้นตัวเมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน หลังจากการระบาดในแคมป์คนงานของบริษัทคลี่คลายในช่วงปลายไตรมาส 2/64 แต่เทียบจากปีก่อนยังหดตัวแรง จากคำสั่งปิดแคมป์ก่อสร้างกทม. ในเดือน ก.ค. รวมถึงกดดันจากการก่อสร้างที่ทำได้ไม่เต็มที่จากฤดูฝนที่เป็นอุปสรรคต่องานใต้ดิน และปัญหาแรงงานไม่เพียงพอ อย่างไรก็ดี คาดกำไรจะเร่งขึ้นดีในไตรมาส 4/64 หลังการก่อสร้างกลับสู่ภาวะปกติ และการเริ่มรับรู้งานใหม่หลายโครงการ รวมถึงการแพร่ระบาดคลี่คลายคาดหนุนให้สถานการณ์แรงงานดีขึ้น

โดยคงประมาณการกำไรปี 2564-2565 ที่ 106 ล้านบาท (ลดลง -55% เมื่อเทียบจากปีก่อน) และ 217 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น +105% เมื่อเทียบจากปีก่อน) ตามลำดับ คงราคาเหมาะสมปี 2565 ที่ 2.50 บาท (อิง PER 12.5 เท่า)คงคำแนะนำซื้อจาก 1) คาดผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดของปีแล้วในไตรมาส 2/64 ก่อนทิศทางจะฟื้นตัวต่อเนื่องในไตรมาสที่ 3-4/64 และเติบโตในปี 2565  2) แบ็กล็อกแข็งแกร่ง 4.2 พันล้านบาท (รวมงานรอเซ็น) ทยอยรับรู้ถึงปี 2567 โดยคาดรับรู้ในครึ่งหลังของปี 2564 1.5 พันล้านบาท และรองรับรายได้ปีหน้าแล้ว 58% 3) มีโอกาสรับ Sub-contract งานอุโมงค์รถไฟทางคู่เด่นชัย ซึ่งความคืบหน้าที่ชัดเจนภายหลังผู้รับเหมาหลักเซ็นสัญญาในเดือน ต.ค. จะเป็นประเด็นหนุนราคาหุ้นได้ โดยบริษัทคาดหวังได้รับอย่างน้อย 5 พันล้านบาท หรือ 30% ของงานอุโมงค์ทั้งหมด 1.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งมองว่าเป็นไปได้ เนื่องจาก RT เป็นพันธมิตรที่มีประสบการณ์ร่วมงานกับ CK และ ITD รวมถึงอยู่ระหว่างก่อสร้างงานอุโมงค์รถไฟทางคู่เด่นมากะเบา-จิระกับ ITD

Back to top button