BCH บวก 5% โบรกเชียร์ “ซื้อ” เป้า 30 บ. คาดกำไรปีนี้แตะ 5.8 พันลบ.  

BCH บวก 5% โบรกฯเชียร์ “ซื้อ” เป้า 30 บ. ชี้ Q4 เด่น โดยลูกค้าเงินสด OPD และ IPD กลับเข้าใช้รพ.มากขึ้น และประกันสังคมหนุน ผลดังกล่าวผลบวกประเมินทั้งปี 2564 คาดกำไรขึ้นเป็น 5,832 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ 26 พ.ย. 2564 ราคาหุ้น บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) หรือ BCH ณ เวลา 10:44 น. อยู่ที่ระดับ 20.90 บาท บวก 0.90 บาท หรือบวกไป 4.50% มูลค่าการซื้อขาย 884.43 ล้านบาท

บริษัท หลักทรัพย์ ฟิลลิป ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ต่อกรณีหุ้น BCH ในส่วนของคนไข้ Non COVID-19 ทั้งลูกค้าเงินสด OPD และ IPD กลับเข้าใช้รพ.มากขึ้น และประกันสังคม โดยจำนวนผู้ประกันตน อยู่ที่ประมาณ 9 แสนราย คาดจำนวนเคสเข้ารับผ่าตัด ทันตกรรม และตรวจ สุขภาพเพิ่มขึ้น อีกทั้งมีรายได้ภาระเสี่ยงส่วนเพิ่มตกค้างจากไตรมาสก่อน จะรับรู้เข้ามาในไตรมาส 4 ปี 2564 นี้ หนุนรายได้ประกันสังคม ปรับตัวดีขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน และจากไตรมาสก่อน

ส่วนรพ.ใหม่ ทั้ง 3 แห่ง มีผลการดำเนินงานที่ดีกว่าคาดมาก โดยเฉพาะ รพ.เกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่น แนล เวียงจันทน์ แม้เปิดให้บริการเมื่อวันที่19 ส.ค. ที่ผ่านมา แต่ผลตอบรับดีมากจากคนไข้ชาวลาว ซึ่งคิดเป็น 75% ของผู้ใช้บริการ และแม้ไม่ได้รับคนไข้ COVID-19 แต่ EBITDA พลิกเป็นบวกแล้ว ทำให้ปีหน้าน่าจะรับรู้กำไรเข้ามาได้

ขณะเดียวกันเริ่มรับรู้รายได้วัคซีนทางเลือก “Moderna” ตั้งแต่เดือน พ.ย. เป็นต้นไป คาดในไตรมาส 4 ปี 2564 จะรับรู้เข้ามา ทั้งหมด 5 แสนโดส ซึ่งคิดเป็นประมาณ 50% ของจำนวนที่ได้รับจัดสรร 1.06 ล้านโดส สูงสุดในกลุ่ม รพ.เอกชน ทั้งนี้ Lot 2 ผู้บริหารประเมินอยู่ที่ 1.2 ล้านโดส จะรับรู้เข้ามาในไตรมาส 1 ปี 2565-ไตรมาส 3 ปี 2565 โดยยังไม่ได้รวมในประมาณการ

อย่างไรก็ตามแม้กำไรไตรมาส 4 ปี 2564 ว่าอาจชะลอตัวจากไตรมาสก่อนหน้า จากรายได้ที่เกี่ยวข้องกับ COVID-19 ลดลง จากสถานการณ์ในประเทศ ที่ดีขึ้น แต่ยังมีผู้ป่วยโควิด Admit ที่รพ. โดย เดือน ต.ค. เฉลี่ยวันละ 5 พันราย และ ytd พ.ย.ที่วันละ 2.5 พันราย สูงกว่าไตรมาส 2 ปี 2564 รวมกับปัจจัยบวกข้างต้นแล้ว เชื่อจะหนุนกำไรสุทธิไตรมาส 4 ปี 2564 เติบโตสูงจากงวดเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตามไตรมาส 3 ปี 2564 ดีกว่าคาดมาก ทางฝ่ายปรับประมาณการทั้งปี 2564 กำไรขึ้นเป็น 5,832 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 374.4% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และรายได้รพ.อยู่ที่ 20,590 ล้านบาท สูงขึ้น 130.6% จากงวดเดียวกันของปีก่อน

ด้านทางฝ่ายวิจัยปรับประมาณการ และราคาพื้นฐานปี 2565 ขึ้นเล็กน้อย จากแนวโน้มการดำเนินงานการ ดำเนินงานที่ดีกว่าคาด สอดคล้องกับมุมมองผู้บริหารประเมินรายได้ปี 2565 เติบโต 104% จากฐานรายได้ปี 2563 ที่ไม่รวมโควิด หนุนจาก 1)การเติบโตของคนไข้เงินสด ประกันสังคม และคนไข้ต่างชาติ 2) ศูนย์การแพทย์ใหม่ และ3)รายได้ที่เกี่ยวข้องกับ COVID-19 และวัคซีน “Moderna” รวมถึงจัดตั้ง บริษัทย่อยใหม่ “BSM” เพื่อต่อยอดธุรกิจ และมีโอกาสนำเข้ายาต้านโควิดของ Pfizer เข้ามาจาก ประเทศเพื่อนบ้าน โดยทางฝ่ายยังไม่ได้รวมในประมาณการ แต่มองเป็น Upside ที่ดีในอนาคต คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาพื้นฐาน 30 บาท

Back to top button