CHEWA ปิดบวก 4% รับแผนลุยตลาดบ้านมือสอง-ตั้งเป้า 3 ปี โกยรายได้ 400 ลบ.

CHEWA ปิดบวก 4% รับแผนลุยตลาดบ้านมือสอง ตั้งเป้า 3 ปีโกยรายได้ 400 ลบ. แถมหุ้นต่ำบุ๊ก


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้(20 ม.ค.65)ราคาหุ้นบริษัท ชีวาทัย จำกัด (มหาชน) หรือ CHEWA ปิดตลาดที่ระดับ 1.12 บาท บวก 0.04 บาท หรือ 3.70% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 71.06 ล้านบาท ขณะเดียวกันราคาหุ้นมูลค่าหุ้นทางบัญชีที่ระดับ 1.48 บาท

โดยก่อนหน้านี้(22ธ.ค.64)นายบุญ ชุน เกียรติ กรรมการผู้จัดการ CHEWA เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด–19 นอกจากโอกาสในการลงทุนเพื่อพัฒนาโครงการใหม่ ๆ บริษัทยังเล็งเห็นถึงโอกาสตลาดที่อยู่อาศัยมือสอง ที่ได้รับความนิยมมากขึ้น สวนทางกับอสังหาริมทรัพย์มือหนึ่ง

ดังนั้น บริษัทจึงได้จัดตั้งทีมเพื่อตอบรับความต้องการของลูกค้าในกลุ่มนี้ โดยรูปแบบของธุรกิจจะเป็นการประมูลทรัพย์จากธนาคาร บริษัทบริหารสินทรัพย์ หรือกรมบังคับคดี ประเภทที่อยู่อาศัย แล้วนำไปปรับปรุงและจำหน่าย พร้อมบริการให้คำปรึกษายื่นกู้ จนถึงกระบวนการโอนกรรมสิทธิ์

โดยเน้นแนวคิด “เพื่อส่งมอบประสบการณ์ของที่อยู่อาศัยมือสองที่ดีกว่า” ซึ่งนอกจากมีความเชี่ยวชาญด้านคุณภาพของการก่อสร้างและดูแลลูกค้า จากทีมงาน “ชีวาแคร์” อยู่แล้ว ยังเพิ่มแผนการตลาดและปรับกลยุทธ์ เพื่อเข้าถึงตลาดที่อยู่อาศัยมือสองให้มากขึ้น โดยคาดหวังว่าจะได้รับความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายและสร้างกระแสในตลาดที่อยู่อาศัยมือสองได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ ยังเป็นธุรกิจที่คู่แข่งในรูปแบบบริษัทที่จัดการเป็นระบบยังมีไม่มาก ส่วนใหญ่เป็นรายบุคคล ซึ่งยังมีช่องว่างในการทำกำไรสูง หากประมูลทรัพย์ที่มีศักยภาพมาได้ อยู่ในทำเลที่เป็นที่ต้องการของตลาดและสภาพดี โดยบริษัทได้ตั้งเป้าหมาย 3 ปี จะมีรายได้จากการขายสำหรับช่องทางที่ 400 ล้านบาท เป็นการต่อยอดจากรายได้ในธุรกิจหลักอีกทางหนึ่ง

นายบุญ ชุน เกียรติ กล่าวอีกว่า ตลาดที่อยู่อาศัยมือสองเป็นตลาดที่มีความสำคัญและไม่ควรมองข้าม จากการติดตามภาพรวมสถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยมือสองทั่วประเทศช่วงที่ผ่านมา พบว่ามีจำนวนหน่วยที่ประกาศขายเฉลี่ยเดือนละกว่า 100,000 หน่วย มูลค่าที่ประกาศขายเฉลี่ยเดือนละกว่า 800,000 ล้านบาท ซึ่งมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็นระยะ

ขณะเดียวกัน มุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจที่น่าจะเริ่มมีการฟื้นตัวมากขึ้นหลังจากที่ประเทศต้องฝ่าวิกฤตโควิด-19 มามากกว่า 2 ปี ขณะนี้มีการรับวัคซีนมากขึ้น ประกอบกับสถานการณ์การระบาดเริ่มดีขึ้น นอกจากนี้ยังมีปัจจัยบวกจากการเปิดประเทศและมีนักท่องเที่ยวเข้ามามากขึ้น ย่อมส่งผลดีต่อธุรกิจที่ฟื้นตัว รวมถึงกลุ่มคนที่อยากมีบ้านที่มีพื้นที่มากกว่าที่อยู่อาศัยเดิมของกลุ่มที่ยังมีกำลังซื้อ

ทั้งนี้ ด้วยจุดขายที่สำคัญของตลาดที่อยู่อาศัยมือสองคือ ทำเล ราคา และความคุ้มค่า ที่เข้ามาตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ซึ่งทำให้ผู้บริโภคมีกำลังซื้อที่ลดลง ต้องใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง คิดไตร่ตรองมากขึ้น ตลอดจนเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อจากธนาคารที่มีความเข้มงวดมากขึ้น

Back to top button