“ไทย โคโคนัท” ยื่นไฟลิ่งขาย IPO 300 ล้านหุ้น เตรียมเข้าเทรด SET

"ไทย โคโคนัท" หรือ TCOCO ผู้ประกอบธุรกิจผลิต-จำหน่ายผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่แปรรูปจากมะพร้าวและผลไม้ เพื่อการส่งออกตปท. และจำหน่ายในปท. ยื่นไฟลิ่งขาย IPO จำนวน 300 ล้านหุ้น เข้า SET โดยมีบ. ทริปเปิ้ล เอ พลัส แอดไวเซอรี่ เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน


สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เปิดเผยว่า บริษัท ไทย โคโคนัท จำกัด (มหาชน) หรือ TCOCO ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวน (Filing) version แรก เมื่อวันที่ 27 ต.ค.58 เพื่อเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 300 ล้านหุ้น และมีความประสงค์จะขอเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยมีบริษัท ทริปเปิ้ล เอ พลัส แอดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน วัตถุประสงค์เพื่อนำเงินไปใช้ชำระหนี้ระยะยาว และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน

ทั้งนี้ TCOCO ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่แปรรูปจากมะพร้าวและผลไม้ภายใต้ตราสินค้าของลูกค้า (Original Equipment Manufacturer หรือ OEM)เป็นหลัก และภายใต้ตราสินค้าของบริษัท“Thai Coco”โดยมีรายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้ตราสินค้าของลูกค้าและตราสินค้าของบริษัทในสัดส่วนประมาณ 97-99% และ 1-3% ของรายได้จากการขายสินค้า ตามลำดับ เพื่อการส่งออกในต่างประเทศที่มีตลาดหลัก ได้แก่ สหรัฐ ยุโรป ออสเตรเลีย เอเชีย ตะวันออกกลาง และแอฟริกา รวมทั้งมีการจำหน่ายภายในประเทศ

โดยปัจจุบัน บริษัทมีโรงงานผลิตสินค้าในจังหวัดราชบุรี มีกำลังการผลิตสูงสุดประมาณ 142,000 ตันต่อปี และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทั้งหมดได้ประมาณ 59,000 ตันต่อปี ลักษณะสินค้าแบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำกะทิ (Coconut Cream หรือ Coconut Milk) กลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำมะพร้าว(Coconut Water ) และกลุ่มผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น น้ำผลไม้ แยมผลไม้ และมะพร้าวฝอยอบแห้ง เป็นต้น

สำหรับช่วงครึ่งแรกของปี 58 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 1,454.22 ล้านบาท หนี้สินรวม 744.92 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้น 709.31 ล้านบาท โดยมีรายได้จากการขาย 1,172.22 ล้านบาท กำไรสุทธิ 169.85 ล้านบาท โดย ณ วันที่ 30 มิ.ย.58 บริษัทมีหนี้สินรวม 754 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นเจ้าหนี้การค้าและเจ้าหนี้อื่น สัดส่วนประมาณ 23-49% ของหนี้สินรวม เงินเบิกเกินบัญชีและเงินกู้ระยะสั้นจากสถาบันการเงิน 27-52% และเงินกู้ยืนระยะยาวจากสถาบันการเงิน 13-42%

ส่วนผลประกอบการทั้งปี 57 บริษัทมีรายได้จากการขาย 2,113.35 ล้านบาท กำไรสุทธิ 264.81 ล้านบาท อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) อยู่ที่ 0.66 เท่า  และ ณ วันที่ 18 ส.ค.58 บริษัทมีทุนจดทะเบียน 550 ล้านบาท ทุนที่เรียกชำระแล้ว 400 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท หลังเสนอขายหุ้นในครั้งนี้แล้วบริษัทจะมีทุนชำระเพิ่มเป็น 550 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 1,100 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท

สำหรับผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท 3 อันดับแรก ณ วันที่ 18 ส.ค.58 ประกอบด้วย นางสาวชัญญา ธนศักดิภัทร ถือหุ้น 317,998,600 หุ้นหรือคิดเป็น 39.75% หลังขายหุ้น IPO จะลดสัดส่วนถือหุ้นลงเหลือ 28.91%, นางบุษรา  พินเจริญ  ถือหุ้น 262,500,000 หุ้นหรือคิดเป็น 32.81% จะลดลงเหลือ 23.86% และนางสาวเกษร ทรายคำ ถือหุ้น 218,500,000 หุ้นหรือคิดเป็น 27.31% จะลดลงเหลือ 19.86%

ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลในแต่ละปีในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิหลังจากหักภาษีเงินได้นิติบุคลของงบการเงินเฉพาะของบริษัท และบริษัทย่อย ตามลำดับ และหลังหักเงินสำรองตามกฎหมาย และเงินสะสมอื่น ๆ ตามที่บริษัทกำหนด

Back to top button