TIPH แรลลี่ 4 วัน พุ่ง 34% โบรกชี้กำไรปี 65 ทะลุ 2 พันลบ. เคาะเป้า 83 บ. อัพไซด์ 23%

TIPH แรลลี่ 4 วัน พุ่ง 34% โบรกชี้กำไรปี 65 แตะ 2.07 พันลบ. โต 10% ส่วนกำไรปี 66 คาดอยู่ที่ 2.23 พันลบ. โต 8% เคาะเป้า 83 บ. อัพไซด์ 23%


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (28 เม.ย. 2565) ราคาหุ้นบริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TIPH ณ เวลา 11:21 น. อยู่ที่ระดับ 67.75 บาท เพิ่มขึ้น 3 บาท หรือ 4.63% โดยทำจุดสูงสุดที่ 68.25 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 64.25 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 652.34 ล้านบาท สำหรับอัพไซด์มาจากการนำราคาหุ้น ณ ปัจจุบันมาคำนวณกับราคาเป้าหมายที่ทางฝ่ายวิจัยได้ให้ไว้ จึงมีอัพไซด์ อยู่ที่ 22.50%

ทั้งนี้ราคาหุ้น TIPH ปรับตัวขึ้นมาต่อเนื่อง 4 วันติดนับตั้งแต่ราคาหุ้นปิดที่ระดับ 50.50 บาท เมื่อวันที่ 22 เม.ย. 2565 คิดเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้น 17.25 บาท หรือคิดเป็น 34.15%

บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ (4 เม.ย.2565) ประเมินว่ากำไรของ TIPH ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว จากสถานการณ์โควิดที่มีความรุนแรงลดลง และการชุมนุมที่ผ่านมาไม่น่าจะกระทบกับชื่อเสียงของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้มอง TIPH ยังมีความน่าสนใจในช่วงของดอกเบี้ยขาขึ้น และการเลิกกิจการของบริษัทประกันภัยหลายแห่งที่ TIPH มีแผนที่จะเข้าไปร่วมทุน หรือซื้อกิจการ (ถือเป็น Upside ต่อประมาณการ)

อย่างไรก็ตามฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการกำไรปี 2565 อยู่ที่ 2,076 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน 1,811.47  ล้านบาท และประเมินกำไรปี 2566 อยู่ที่ 2,235 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยฝ่ายวิจัยคาดว่ากำไรของ TIPH น่าจะฟื้นตัวได้ดีตั้งแต่ไตรมาส 3/2565 เป็นต้นไป เนื่องจากประกันภัยโควิดที่ทยอยหมดอายุ และสถานการณ์โควิดที่น่าจะมีความรุนแรงลดลงในอนาคต โดยหลักๆโตมาจากส่วนของประกันภัยเบ็ดเตล็ด ประเภทโครงสร้างพื้นฐาน

นอกจากนี้ TIPH ยังมี Upside เพิ่มเติมจากการ M&A โดยปัจจุบัน TIPH ยังไม่มีหนี้สินส่วนที่มีดอกเบี้ย (Interest Bearing Debt) เลย โดยบริษัทมีแผนที่จะ Leverage ขึ้นไปให้ IBD/E อยู่ที่ 0.50 เท่า ซึ่งจะทำให้ได้เงินสดมากว่า 5 พันล้านบาท ซึ่งบริษัทตั้งใจที่จะซื้อบริษัทที่มี ROE ไม่ต่ำกว่า TIPH เพื่อรักษาอัตราผลตอบแทนของผู้ถือหุ้น

โดยแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายที่ 83 บาท อิง Gordon Growth Model เทียบเท่า P/BV 5.50 เท่า

Back to top button