SFLEX บวกแรง 4% โบรกเชียร์ซื้ออัพเป้าใหม่ 4.80 บ. ลุ้นผลงานครึ่งปีหลังฟื้นแกร่ง

SFLEX บวกแรง 4% โบรกเชียร์ซื้ออัพเป้าใหม่ 4.80 บ. ลุ้นผลงานครึ่งปีหลังฟื้นแกร่ง-จ่อปิดดีลธุรกิจบรรจุภัณฑ์เวียดนาม


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(6มิ.ย.65)บริษัท สตาร์เฟล็กซ์ จำกัด (มหาชน)  หรือ SFLEX  ณ เวลา 10.31 น. อยู่ที่ระดับ 4.18 บาท บวก 0.16 บาท หรือ3.98% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 167.40 ล้านบาท

บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์(2 มิ.ย.2565) ว่า การประชุมนักวิเคราะห์วานนี้ทำให้มั่นใจว่าผลการดำเนินงานของ SFLEX ผ่านจุด ต่ำสุดไปแล้วในไตรมาส 1/2565 การฟื้นตัวยังไม่รวดเร็วในไตรมาส 2/2565 ตามที่เคยประเมินเพราะยัง ถูกกระทบจากต้นทุนวัตถุดิบที่อยู่ในระดับสูง และมีค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการย้าย โรงงานต่อเนื่องจากไตรมาสก่อน

ปัจจุบันโรงงานแห่งใหม่ก่อสร้างแล้วเสร็จและอยู่ ระหว่างย้ายเครื่องจักรและเครื่องเป่าฟิล์มไปอยู่รวมกันในโรงงานแห่งใหม่เพื่อให้เกิด Economy of scale เราคาดว่าผลประกอบการจะฟื้นชัดเจนตั้งแต่ไตรมาส 3/2565 หากราคา น้ำมันไม่ปรับขึ้นอย่างรุนแรงไปกว่านี้ เพราะจะเริ่มเห็นผลบวกมากขึ้นจากการทยอย ปรับเพิ่มราคาขาย ประกอบกับโรงงานแห่งใหม่ขนาดพื้นที่เกือบ 12,000 พร้อมผลิตเชิงพาณิชย์ โรงงานแห่งนี้มีความทันสมัย สามารถผลิตสินค้าเกรด Medical ได้ตามมาตรฐาน ช่วยให้บริษัทสามารถขยายฐานตลาด โรงงานแห่งนี้จะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นประมาณ 40-50% จากปัจจุบัน 180 ล้านเมตรต่อปี เป็น 260-270 ล้านเมตรต่อปี รองรับรายได้ได้ 2.5-3.0 พันล้านบาทต่อปีใกล้ปิดดีลที่เวียดนาม คาดเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรในไตรมาส 3/2565

บริษัทกลับมาเดินหน้าเจรจากับผู้ผลิต Rigid packaging ในเวียดนามอีกครั้งทันทีที่ สถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจาด้านราคาและสัดส่วน การเข้าลงทุนพร้อมกับพันธมิตร โดยคาดว่า SFLEX น่าจะเข้าลงทุนในสัดส่วนไม่ต่ำกว่า 30% คาดการเจรจาจะแล้วเสร็จและเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรของบริษัทในเวียดนาม ได้ในไตรมาส 3/2565

บริษัทดังกล่าวเป็นผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์กระดาษที่มีคุณภาพสูง มี ประสบการณ์ในเวียดนามกว่า 20 ปี มีฐานลูกค้าใกล้เคียงกับ SFLEX แต่สินค้าไม่ซ้ำ กัน ตลาดบรรจุภัณฑ์ในเวียดนามมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ในอนาคต SFLEX อาจ นำการผลิต Flexible packaging ของบริษัทเข้าไปเสริม เป็นการขยายฐานตลาดของ SFLEX สู่ตลาด CLMV ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง

บริษัทเตรียมพัฒนาสินค้าใหม่เช่น Pouch bag เพื่อใช้กับแบตเตอรี่รถ EV และ Data storage เป็นต้น คาดพร้อมผลิตเชิงพาณิชย์ได้ราวปี 2565 รวมถึงวิจัยและพัฒนา สินค้านวัตกรรมอื่นเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนและรองรับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป เช่น Biodegradable film รวมถึงฟิล์มที่ใช้วัสดุย่อยสลายอื่นๆ ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 4.80 บาท ยังไม่รวมเวียดนาม แนะนำซื้อลงทุน

ปรับประมาณการกำไรปี 2565-2567 ขึ้น 7.3%, 9.7%, 12.8% เป็น  ลดลง 35.1% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน, โต 42.7% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน, โต 23.0% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามลำดับ

โดยปรับเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นขึ้น 0.7-1.9% ตามสัดส่วนสินค้านวัตกรรมที่สูงขึ้น และเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรของ JV กับ TU กลาง ปี 2566 ราคาเป้าหมายกลางปี 2023 ถูกปรับขึ้นเป็น 4.80 บาท จากเดิม 4.50 บาท (อิง PE เดิมที่ 28 เท่า) แนะนำทยอยซื้อลงทุน ทั้งนี้ ประมาณการและราคาป้าหมาย ดังกล่าวยังไม่รวม Upside ที่จะเกิดจากการลงทุนในกิจการในเวียดนาม

Back to top button