SELIC ปิดเช้าพุ่ง 18% รับขาย PP “วิฑูรย์ ว่องกุศลกิจ” ระดมทุนรุก ”เฮลท์แคร์-เวชภัณฑ์”

SELIC ปิดเช้าพุ่ง 18% รับขาย PP “วิฑูรย์ ว่องกุศลกิจ” ระดมทุนรุก ”เฮลท์แคร์-เวชภัณฑ์” โดยราคาหุ้นปิดที่ระดับ 2.84 บาท บวก  0.44 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 57.00 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(27 มิ.ย.2565) ราคาหุ้นบริษัท ซีลิค คอร์พ จำกัด (มหาชน)  หรือ SELIC ปิดบวกภาคเช้าอยู่ที่ระดับ 2.84 บาท บวก  0.44 บาท หรือ 18.33% ราคาสูงสุด 2.98 บาท ราคาต่ำสุด 2.50 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 57.00 ล้านบาท

โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท SELIC เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2565 มีมติอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทจำนวน 44,643,000 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 250,998,516.00 บาท เป็นทุนจดทะเบียนจำนวน 295,641,516.00 บาท โดยออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 89,286,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท

นอกจากนี้มีมติอนุมัติให้พิจารณาการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทจำนวนไม่เกิน 89,286,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ซึ่งจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) ซึ่งไม่เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันของบริษัทฯ (“ผู้ลงทุน”) โดยจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 89,286,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ในราคาเสนอขาย 2.80 บาทต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่ารวม 250,000,800 บาท ให้แก่ นายวิฑูรย์ ว่องกุศลกิจ

โดยมีวัตถุประสงค์ของการออกหุ้นสามัญเพิ่มทนุ และแผนการใช้เงิน เนื่องด้วยบริษัทฯ มีเป้าหมายที่จะขยายการลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพ โดยมีแผนการลงทุนในโครงการอุตสาหกรรมการผลิตและจำ หน่ายผลิตภัณฑ์ Health care และเวชภัณฑ์ซึ่งเป็นการต่อยอดธุรกิจในปัจจุบัน โดยบริษัทฯ มีแผนที่จะใช้เงินที่ได้รับจากการเพิ่มทุนในครั้งนี้ในการขยายธุรกิจดังกล่าวเป็นจำนวนประมาณไม่เกิน 600 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ต้องใช้เงินลงทุนเกินกว่าจำนวนเงินที่ได้รับจากการเพิ่มทุนในครั้งนี้ โดยบริษัทฯ จะพิจารณาใช้แหล่งเงินทุนอื่น โดยจะคำนึงถึงสถานะทางการเงินของกิจการและสภาวะตลาดทุนเป็นสำคัญเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับกิจการและผู้ถือหุ้น และบริษัทฯ จะพิจารณาใช้แหล่งเงินทุนอื่น อาทิเช่น การกู้ยืมเงินทุนจากสถาบันทางการเงิน ประกอบกับการที่บริษัทฯ พิจารณานักลงทุนที่มีศักยภาพด้านเงินทุน และมีความประสงค์ที่จะเข้าลงทุนในธุรกิจของบริษัท บริษัทฯจึงได้เข้าเจรจากับนักลงทุนจนประสบผลสำเร็จในครั้งนี้

ทั้งนี้การเขาลงทุนในอุตสาหกรรมการผลิตและจำหน่าย Health care และเวชภัณฑ์ดังกล่าว บริษัทฯ อยู่ในระหว่างการเจรจากับคู่สัญญา อย่างไรก็ดี หากการเข้าลงทุนเสร็จเรียบร้อยแล้ว บริษัทฯ จะเปิดเผยสารสนเทศต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ และดำเนินการอื่นใดตามที่กฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยบริษัทมีกำหนดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2565 ในวันที่ 11 สิงหาคม 2565 เพื่อพิจารณาแผนมติดังกล่าว

Back to top button