KUMWEL ซิลลิ่ง! ปักธงปีนี้รายได้โต 20% แตะ 550 ลบ. ลุ้นคว้างานเหมืองถ่านหินอินโดฯ

KUMWEL ซิลลิ่ง! ปักธงปีนี้รายได้โต 20% แตะ 550 ล้าน แย้มจ่อคว้างานระบบ "ป้องกันฟ้าผ่า" เพิ่มเหมืองถ่านหินอินโดฯ ดันผลงานเข้าเป้า


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(30 มี.ค.65) ราคาหุ้นบริษัท คัมเวล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)  หรือ KUMWEL ณ เวลา 15:31 น. อยู่ที่ระดับ 3.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.68 บาท หรือ 29.31% โดยทำจุดสูงสุดของวัน(Ceiling) ที่ระดับ 3.00 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 2.30 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 96.36 ล้านบาท

โดยก่อนหน้านี้(12มิ.ย.65)นายบุญศักดิ์ เกียรติจรูญเลิศ  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KUMWEL เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทยังคงเป้าหมายจะมีรายได้ 550 ล้านบาท เติบโต 20% จากปีก่อนที่มีรายได้ 465.57 ล้านบาท โดยในไตรมาส 1/2565 (ม.ค.-มี.ค. 2565) ที่บริษัทมีรายได้ 140.5 ล้านบาทนั้น ถือว่าดำเนินงานตามเป้าที่ตั้งไว้แล้ว ขณะที่ปัจจุบันบริษัทยังมีงานที่รอรับรู้รายได้ (แบ็กล็อก) กว่า 100 ล้านบาท ซึ่งเป็นแบ็กล็อกที่ค้างมาตั้งแต่ช่วงไตรมาส 1/2565 เนื่องจากผลกระทบการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และจะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 2 นี้เป็นต้นไป

ขณะที่ล่าสุดบริษัทยังมีแนวโน้มได้รับงานวางระบบป้องกันฟ้าผ่าที่เหมืองถ่านหิน ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งขณะนี้บริษัทได้ส่งทีมงานเข้าไปสำรวจพื้นที่เพื่อติดตั้งแล้ว และคาดว่าจะได้รับงานเร็ว ๆ นี้ และได้บันทึกรายได้ภายในปีนี้ นอกจากนี้บริษัทมีผลิตภัณฑ์ด้าน Solution & Innovation ที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดีด้วย รวมทั้งมีการทำวิจัยเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ของบริษัทอย่างต่อเนื่อง  และยังเป็นรายแรกที่ได้รับเครื่องหมาย มอก. (มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม) ในอุปกรณ์ป้องกันฟ้าผ่า

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin : GPM) ช่วงไตรมาส 1/2565 ซึ่งอยู่ที่ 38.7% นั้น ยังอยู่ในระดับที่ไม่น่าพอใจ และเชื่อว่าจะเป็น GPM ที่อยู่ในระดับต่ำสุดของปีนี้แล้ว โดยตั้งแต่ไตรมาส 2 นี้ GPM จะปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากบริษัทมีการวางระบบเพื่อบริหารต้นทุน โดยเฉพาะทองแดงที่ราคาทยอยปรับตัวสูงขึ้นมาตั้งแต่ปี 2563 จากผลกระทบการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19, ปัญหาขาดแคลนวัสดุ, ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งมั่นใจว่าการบริหารต้นทุนแบบใหม่และมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้จะช่วยปรับราคาขายและต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และทำให้ GPM ปรับตัวดีขึ้นด้วย

นายบุญศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมถึงการก่อสร้างสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ของบริษัท บริเวณถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี วงเงิน 243 ล้านบาท (ค่าจัดซื้อที่ดิน 53 ล้านบาท, ค่าก่อสร้าง 170 ล้านบาท, ค่าตกแต่ง 20 ล้านบาท) ว่า ล่าสุดงานก่อสร้างมีความคืบหน้าประมาณ 30% และจะแล้วเสร็จช่วงปลายปีนี้ โดยสำนักงานใหญ่แห่งใหม่จะเป็นปัจจัยหนุนสำคัญต่อการทำตลาดต่อไปในอนาคต เพราะภายในสำนักงานจะมีนวัตกรรมด้านการตลาดที่สามารถเสนอสินค้าให้กับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งปัญญาประดิษฐ์ (AI), การเข้าชมสินค้าหรือร่วมประชุมแบบเสมือนจริง (อวตาร), ศูนย์ฝึกอบรม เป็นต้น

Back to top button