KTB นำทีมแบงก์บวก! หลังงบ Q2 โตเกินคาด โบรกอัพเป้า 18 บ. ชี้กำไรปีนี้ 3 หมื่นล้าน

KTB นำทีมกลุ่มแบงก์บวก! หลังงบไตรมาส 2 โตเกินคาด โบรกชี้ไตรมาส 3 โตต่อเนื่อง จากสำรองฯลดลง มองกำไรปีนี้ 3 หมื่นล้าน โต 38% อัพราคาเป้าหมาย 18 บ. จากเดิม 16 บ.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (22 ก.ค.65) ณ เวลา 10:42 น. ราคาหุ้นกลุ่มแบงก์ปรับตัวขึ้นบนกระดานหลังรายงานงบไตรมาส 2 ออกมาเติบโตโดดเด่น นำโดย ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB อยู่ที่ระดับ 15.60 บาท บวก 0.60 บาท หรือ 4% สูงสุดที่ระดับ 15.70 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 15.30 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 703.66 ล้านบาท

บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB อยู่ที่ระดับ 97 บาท บวก 3 บาท หรือ 3.19% สูงสุดที่ระดับ 97.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 95 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.15 พันล้านบาท

ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK อยู่ที่ระดับ 141 บาท บวก 0.50 บาท หรือ 0.36% สูงสุดที่ระดับ 142.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 141 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.17 พันล้านบาท

ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL อยู่ที่ระดับ 131.50 บาท บวก 1 บาท หรือ 0.77% สูงสุดที่ระดับ 132 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 130.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 601.67 ล้านบาท

ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ CIMBT อยู่ที่ระดับ 0.83 บาท บวก 0.01 บาท หรือ 1.22% สูงสุดที่ระดับ 0.84 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 0.83 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.89 ล้านบาท

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY อยู่ที่ระดับ 31.25 บาท บวก 0.25 บาท หรือ 0.81% สูงสุดที่ระดับ 31.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 30.75 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7.26 ล้านบาท

ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ KKP อยู่ที่ระดับ 63.50 บาท บวก 0.50 บาท หรือ 0.79% สูงสุดที่ระดับ 63.75 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 63 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 114.07ล้านบาท

บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ว่า สรุปกำไรไตรมาส 2/65 ของกลุ่มธนาคารโต 2% จากไตรมาสก่อน และโต 22% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยรวมใกล้เคียงคาดการณ์ซึ่งธนาคารที่กำไรดีกว่าคาดเรียงลำดับ ได้แก่ KTB, TTB และ KKP ส่วนที่เหลือค่อนข้างใกล้เคียงคาด แรงหนุนคือรายได้ดอกเบี้ยที่ไต่ระดับขึ้น และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการตั้งสำรองที่ลดลงตามภาพเศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัว แนวโน้มกำไรโดยรวมในครึ่งปีหลัง 65 คาดว่ายังอยู่ในทิศทางที่ดีและได้อานิสงส์จากดอกเบี้ยขาขึ้น

ขณะเดียวกันบล.เคทีบีเอสที แนะนำ “ซื้อ” หุ้น KTB เช่นกัน โดยปรับราคาเป้าหมายปี 66 เพิ่มเป็น 18 บาท อิงปี 65 ค่า PBV ที่ 0.66 เท่า จากเดิมที่ 16 บาท อิงปี 65 ค่า PBV ที่ 0.60 เท่าจากการปรับกำไรและ PBV เพิ่มขึ้น

โดย KTB ประกาศกำไรสุทธิในไตรมาส 2/65 อยู่ที่ 8.40 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 39% จากงวดเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 5% จากไตรมาสก่อนดีกว่าที่ตลาด 23% และทางฝ่ายวิจัยคาด 16% เพราะมีการตั้งสำรองลดลง, NIM เพิ่มขึ้น และ OPEX ยังอยู่ในระดับต่ำ ส่วน NPL ยังปรับตัวลดลงได้ดี ซึ่งกำไรสุทธิในครึ่งปีแรก 65 คิดเป็น 60% ของประมาณการ ทำให้มีการปรับคาดการณ์กำไรสุทธิในปี 65 เพิ่มขึ้น 4% ส่วนปี 66 เพิ่มขึ้น 3% จากการปรับ Credit cost และ Cost to Income ลดลง ทำให้ได้กำไรสุทธิในปี 65 อยู่ที่ 3 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 38% จากงวดเดียวกันของปีก่อน

ขณะที่คาดว่าแนวโน้มกำไรสุทธิในไตรมาส 3/65 จะเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน ต่อเนื่องจากสำรองฯลดลง ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น 23% ใน 3 เดือนที่ผ่านมาเมื่อเทียบกับ SET จากกำไรในไตรมาส 1-2 ปี 65 ที่ออกมาดีกว่าตลาดคาดมาก

ด้าน valuation ปัจจุบันยัง Laggard เมื่อเทียบในกลุ่มธนาคาร โดยซื้อขายที่ระดับต่ำเพียง PBV ที่ 0.55 (กลุ่มธนาคารซื้อขายที่ 0.77 เท่า) ขณะที่ทางฝ่ายวิจัยคาดว่าจะมี Upside เพิ่มจากการใช้ Data ใน Application เป๋าตังและอื่นๆที่ช่วยเหลือรัฐบาล ซึ่งสามารถนาข้อมูลมา Cross-selling เพิ่มเติมได้อีกในอนาคต

Back to top button