SENAJ ดีดบวก 3% จับตารุก Healthcare หนุนธุรกิจโตแกร่ง

SENAJ เด้งกว่า 3% ลุ้นปรับเปลี่ยนสู่ธุรกิจดูแลสุขภาพ “Healthcare” หลังเห็นโอกาสเติบโตสูง หนุนผลงานเติบโตแข็งแกร่ง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย.65) ราคาหุ้น บริษัท เสนา เจ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ SENAJ ณ เวลา 10:19 น. อยู่ที่ระดับ 1.16 บาท บวก 0.03 บาท หรือ 2.65% สูงสุดที่ระดับ 1.16 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 1.13 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 61.92 ล้านบาท

ทั้งนี้ ราคาหุ้น SENAJ ปรับตัวขึ้นในแดนบวก หลังเริ่มปรับเปลี่ยนไปรุกสู่ธุรกิจดูแลสุขภาพ “Healthcare” หลังเห็นโอกาสเติบโตสูง แย้มอยู่ระหว่างศึกษารายละเอียดการพัฒนาศูนย์เนอร์สซิ่งโฮม หรือบ้านพักผู้สูงอายุ คาดเห็นความชัดเจนในปีหน้า

โดย ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทได้เข้าซื้อกิจการของ SENAJ ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2564 ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบันทำให้ SENA มีสัดส่วนในการถือหุ้นใน SENAJ คิดเป็น 35.35% บริษัทมีแผนปรับเปลี่ยน SENAJ ให้ดำเนินธุรกิจอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ธุรกิจที่อยู่อาศัย

โดยปัจจุบันบริษัทมีนโยบายทยอยขายสินค้าในโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ SENAJ ดำเนินการมาตั้งแต่เดิมก่อน ซึ่งในอนาคต SENAJ ไม่มีแผนที่จะซื้อที่ดินสำหรับพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยประเภทแนวราบเพิ่ม แต่จะค่อย ๆ ปรับกลยุทธ์ไปพัฒนาโครงการประเภท Health care คือ ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการดูแลความเป็นอยู่ด้านสุขภาพของมนุษย์

“เราเข้าไปลงทุนใน SENAJ ถือเป็นโอกาส เพราะเราไม่มีโครงการในโซนนั้นเลย (โซนทางใต้ของกรุงเทพฯ) ดังนั้น การซื้อ SENAJ มา จึงถือเป็นโอกาสในการขายของเรา ปัจจุบันเราเน้นขายโครงการที่ SENAJ มีอยู่ทั้งหมด ยังไม่มีแผนการพัฒนาโครงการใหม่เพิ่ม เพราะเรามีแผนที่จะปรับเปลี่ยนให้ SENAJ ดำเนินธุรกิจอื่น ๆ แทน เช่น ธุรกิจทางด้าน Healthcare” ผศ.ดร.เกษรา กล่าว

ทั้งนี้ ในอนาคต SENAJ จะค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนการดำเนินธุรกิจไปสู่การทำศูนย์เนอร์สซิ่งโฮม (Nursing Home) หรือบ้านพักผู้สูงอายุเป็นสถานที่ดูแล พักฟื้น และให้การช่วยเหลือในกิจวัตรประจำวันแก่ผู้สูงอายุ ผู้ทุพพลภาพ ผู้ป่วยหลังผ่าตัด ผู้ป่วยที่ต้องการพักฟื้นระยะสั้นและผู้ป่วยที่ต้องการพักฟื้นระยะยาว ซึ่งปัจจุบันตลาดดังกล่าวเป็นตลาดที่ใหญ่มาก และมีผู้ประกอบการที่ทำเยอะมาก แต่ยังไม่มีผู้ประกอบการที่ใหญ่เป็นเจ้าตลาด ดังนั้น บริษัทจึงมองเห็นโอกาสในการเข้าไปสู่การทำธุรกิจในรูปแบบดังกล่าว

โดยปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาและศึกษาในเรื่องของรายละเอียดและการลงทุนพัฒนาโครงการในรูปแบบดังกล่าว ซึ่งเบื้องต้นบริษัทคาดว่าจะเห็นการปรับเปลี่ยนและเริ่มรุกเข้าสู่ตลาดศูนย์เนอร์สซิ่งโฮมของ SENAJ ชัดเจนขึ้นตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นไป ซึ่งการลงทุนจะเป็นการลงทุนพัฒนาโครงการขนาดเล็กขึ้นมาใหม่ แต่จะกระจายไปในหลาย ๆ ทำเล เพื่อให้เข้าถึงผู้ที่มีความต้องการในวงกว้าง

Back to top button