TOA บวกแรง 6% นิวไฮรอบ 13 เดือน โบรกแนะซื้อเป้า 38 บ. ลุ้นรายได้ปี 66 โตสองหลัก

TOA บวกแรง 6% นิวไฮรอบ 13 เดือน โบรกแนะซื้อเป้า 38 บ. ลุ้นรายได้ปี 66 โตสองหลัก-เล็งเจาะตลาดเวียดนาม


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (4 ม.ค.66) ราคาหุ้น บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TOA ณ เวลา  16:01 น. อยู่ที่ระดับ 35.00 บาท บวก 2.00 บาท หรือ 6.06% สูงสุดที่ระดับ 35.25 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 32.75 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 154.18 ล้านบาท ราคาหุ้นนิวไฮ รอบ 13 เดือน โดยเทียบตั้งแต่หุ้นยืนที่ระดับ 35.00 บาท เมื่อวันที่ 22 พ.ย.64

ด้านบทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ประเมินว่า “น้ำท่วมแทบจะไม่กระทบต่อรายได้เกษตรกร” จากข้อมูลรายได้เกษตรกรในเดือน ต.ค. 65 เพิ่มขึ้น 25.5% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปี 64 ตามราคาที่สูงขึ้น และผลผลิตที่มากขึ้น โดยประเมินรายได้เกษตรกรของไทยไตรมาส 4/65 จะเคลื่อนไหวดีที่สุด จากราคาปศุสัตว์ที่แข็งแกร่งจากอุปสงค์ที่กลับเข้ามา และผลผลิตข้าวเปลือกระดับสูงในเดือน พ.ย.-ธ.ค.65 จะขับเคลื่อนรายได้ภาคเกษตรของไทยให้เติบโตขึ้นหลักสิบ เป็นต้น

โดยเลือกหุ้นเด่นที่คาดว่าได้รับประโยชน์จากปัจจัยบวกดังกล่าวคือ กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ได้แก่ บริษัท ไดนาสตี้เซรามิค จำกัด (มหาชน) หรือ DCC แนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมาย 3.30 บาท และบริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TOA แนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมาย 38 บาท

ด้านแหล่งข่าวจาก TOA เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ก่อนหน้านี้ว่า จากตัวเลขรายได้ภาคการเกษตรเดือน ต.ค. 65 ที่ขยายตัวได้ดี ซึ่งหลังเหตุการณ์น้ำท่วมจะช่วยหนุนกำลังซื้อของประชาชนในเขตต่างจังหวัด และความต้องการปรับปรุงซ่อมแซมบ้าน ภายหลังน้ำท่วมเพิ่มขึ้น รวมทั้งการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวเป็นปัจจัยบวกต่อความต้องการใช้สี และวัสดุก่อสร้างที่จะขยายตัว

โดยปกติแล้วไตรมาส 4 และไตรมาส 1 ของทุกปี จะเป็นช่วงไฮซีซั่นของกลุ่มวัสดุก่อสร้าง หรือผลิตภัณฑ์เกี่ยวเนื่อง เนื่องจากได้ผ่านฤดูฝนไปแล้ว และอุตสาหกรรมก่อสร้างโดยรวมได้กลับมาเดินหน้าพัฒนาโครงการเป็นปกติ รวมถึงภาคครัวเรือนที่จะมีการปรับปรุง และซ่อมแซมที่อยู่อาศัย ทำให้ปริมาณการขาย (วอลุ่ม) ของ TOA ใน 2 ไตรมาสนี้ค่อนข้างออกมาดี และในปี 65 มีเหตุการณ์น้ำท่วม ยิ่งจะทำให้ตลาดปรับปรุง และซ่อมแซมที่อยู่อาศัยขยายตัวมากขึ้น

ดังนั้นบริษัทมั่นใจว่าภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/65 จะเติบโตได้ดีต่อเนื่องจากไตรมาส 3/65 และเติบโตค่อนข้างดี เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปี 64 ช่วยหนุนผลการดำเนินงานโดยรวมออกมาค่อนข้างดี

ขณะที่ TOA ได้มีการปรับเพิ่มเป้าหมายปี 65 จะมีรายได้จากการขายเติบโต 17-18% จากเดิมคาดไว้ 10% จากปี  64 ที่มีรายได้จากการขาย 17,700 ล้านบาท ซึ่ง 9 เดือนแรกของปี 65 มีรายได้จากการขายสูงถึง 15,000 ล้านบาท โดยเป็นไปตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่กลับมาสู่ภาวะปกติ และการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ กระตุ้นยอดขายทั้งตลาดในประเทศ และต่างประเทศ ทำให้วอลุ่มโดยรวมของ TOA เพิ่มขึ้นจากทุกช่องทางการจัดจำหน่าย

ส่วนแนวโน้มการดำเนินงานปี 66 ทาง TOA มั่นใจว่ารายได้จากการขายจะเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลัก จากปี 65 และประเมินสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศจะยังทรงตัวที่ระดับ 20% ของรายได้รวม เนื่องจากรายได้จากการขายในประเทศมีฐานที่ใหญ่ หลังขยายธุรกิจในประเทศไทยเพิ่มเติม

นอกจากนี้ในปี 66 มีแผนขยายการลงทุนในตลาดประเทศเวียดนาม โดยการปรับปรุงประสิทธิภาพในส่วนต่าง ๆ ให้ดียิ่งขึ้น เนื่องจากวอลุ่มมีการขยายตัวค่อนข้างสูงมาก เป็นต้น  ขณะที่ตลาดในประเทศไทย หลังจากที่ผ่านมาได้ขยายธุรกิจเคมีก่อสร้าง และวัสดุก่อสร้างเพิ่มเติม ซึ่งผลการดำเนินงานมีการขยายตัวที่ดี ส่วนธุรกิจหลักอย่างผลิตภัณฑ์สี ยังคงมุ่งมั่นรักษาส่วนแบ่งการตลาด (มาร์เก็ตแชร์) เป็นอันดับหนึ่ง

Back to top button