IIG ดีดแรง 17% ยันรายได้ปีนี้ 1.4 พันล้าน หลังปิดดีลพันธมิตร “เวียดนาม” สยามปีกอาเซียน

IIG เด้งเฉียด 17% ผู้บริหารยันรายได้ปีนี้โต 40% แตะ 1.4 พันล้านบาท หลังก่อนหน้านี้ปิดดีลพันธมิตรใหญ่ “เวียดนาม” เดินหน้าสยายปีกสู่ตลาดอาเซียน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ค.66) ราคาหุ้น บริษัท ไอแอนด์ไอ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ IIG ณ เวลา 11:28 น. อยู่ที่ระดับ 16.00 บาท บวก 2.30 บาท หรือ 16.79% สูงสุดที่ระดับ 16.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 13.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 28.39 ล้านบาท

นายสมชาย เมฆะสุวรรณโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร IIG เปิดเผยว่า จากแผนการเติบโตของบริษัทฯ ที่มุ่งเน้นการเติบโตจากธุรกิจเดิมของบริษัทฯ (Organic Growth) ในกลุ่ม CRM และ ERP รวมถึงธุรกิจใหม่ อาทิ MarTech, InsureTech และ HealthTech บริษัทฯ ยังคงมองหาโอกาสในการลงทุน M&A ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ล่าสุดบริษัทฯได้เตรียมเข้าร่วมลงทุนจัดตั้งบริษัท Joint Venture กับ VMO Holdings Technology Joint Stock Company ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้าน IT Outsource ยักษ์ใหญ่ในประเทศเวียดนาม โดยเหตุผลสำคัญที่บริษัทฯ เลือกลงทุนใน VMO เนื่องจากมีประสบการณ์ในการให้บริการลูกค้าเป็นจำนวนมาก ตั้งแต่บริษัทสตาร์ทอัพไปจนถึงบริษัทขนาดใหญ่ทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย

อีกทั้ง VMO ยังมีสำนักงานในสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และไทย ที่สามารถรองรับการให้บริการลูกค้าได้ทั่วโลก และทีมผู้บริหารมีวิสัยทัศน์อันกว้างไกล ประกอบกับประเทศเวียดนามมีการปูพื้นฐานทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยีที่แข็งแกร่งมาก ทั้งจากการสนับสนุนของภาครัฐ และการร่วมมือของภาคเอกชน จึงทำให้บริษัทฯ มั่นใจว่าการลงทุนในครั้งนี้จะสามารถสร้างการเติบโตให้กับบริษัทฯ ได้ในระยะยาว

โดยการจัดตั้งบริษัทร่วมทุน (Joint Venture) ดังกล่าว คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2566  นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างการเจรจา เพื่อเข้าลงทุนในกิจการอื่นในประเทศเวียดนามซึ่งเป็นจิ๊กซอว์สำคัญสำหรับการสร้างศักยภาพการเติบโตของบริษัทฯ ในอนาคต

ปีนี้บริษัทฯ คาดการณ์ว่ายังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าผลประกอบการปี 2566 มีรายได้ทั้งปี เติบโตมากกว่า 40% หรือประมาณ 1,400 ล้านบาท จากการเติบโตของธุรกิจเดิมของบริษัทฯ อีกทั้งรายได้เสริมจากธุรกิจใหม่ อาทิ MarTech, InsureTech และ HealthTech รวมถึงรายได้ที่หนุนเพิ่มจาก Lansing ในขณะเดียวกันบริษัทฯ ยังคงมองหาโอกาสในการลงทุนขยายกิจการในอนาคตทั้งในและต่างประเทศด้วยเช่นกัน เพื่อเสริมสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้แก่บริษัทฯ และสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น” นายสมชาย กล่าว

Back to top button