DPAINT เด้งแรง 14% เก็งงบ Q2 แจ่ม ย้ำยอดขายปีนี้ 1.2 พันล้าน โต 30%

DPAINT เด้งแรง 14% เก็งงบไตรมาส 2/66 แจ่ม อานิสงส์ธุรกิจสีและเคมีภัณฑ์ก่อสร้างเติบโต ย้ำเป้ายอดขายปีนี้ 1.2 พันล้าน โต 30% แนะซื้อเป้า 9.20 บาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (31 ก.ค.66) ราคาหุ้น บริษัท สีเดลต้า จำกัด (มหาชน) หรือ DPAINT ณ เวลา 11:47 น. อยู่ที่ระดับ 6.50 บาท บวก 0.80 บาท หรือ 14.04% สูงสุดที่ระดับ 6.80 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 5.85 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 21.13 ล้านบาท

โดยก่อนหน้านี้นายอรรถพล ตั้งคารวคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบัญชีและการเงิน DPAINT เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/66 จะออกมาดีกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากธุรกิจสีมีการขยายตัวต่อเนื่อง และธุรกิจเคมีภัณฑ์ก่อสร้างเข้ามาเสริมยอดขาย ซึ่งที่ผ่านมาทยอยออกสินค้าไปกว่า 20 รายการ

“ธุรกิจ DPAINT ไม่ได้อิงไปกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจเป็นหลัก สะท้อนจากผลการดำเนินงานที่เติบโตได้ในช่วงเกิดโควิด-19 และปัจจุบันยังเห็นการเติบโตที่ดี โดยมองว่าฐานธุรกิจบริษัทยังเล็ก ทำให้สามารถหาลูกค้ารายใหม่เข้ามาได้ต่อเนื่อง ซึ่งเห็นได้จากร้านขายวัสดุก่อสร้างทั่วประเทศมีมากกว่า 7,000-8,000 ร้าน แต่ DPAINT กระจายอยู่เพียงหลัก 1,000 ร้านเท่านั้น รวมถึงช่องว่าง และโอกาสอื่น ๆ ที่สามารถสร้างการเติบโตได้อีกมาก เมื่อเทียบกับผู้เล่น 5 รายหลักในตลาด

ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2566 บริษัทมองเห็นหลายปัจจัยที่จะเข้ามากระทบต่อการดำเนินธุรกิจทั้งเชิงบวกและเชิงลบ ทั้งราคาวัตถุดิบที่ทรงตัว หรือปรับลดลงต่อเนื่อง และการทยอยออกสินค้าเคมีภัณฑ์ก่อสร้างใหม่เพิ่มเติมให้ครบ 30 รายการ และสร้างรายได้จากการขาย 120 ล้านบาท จากปี 2565 ที่มีรายได้จากการขายเพียง 10 ล้านบาท บวกกับค่าใช้จ่ายในการบริหารค่อนข้างนิ่งและรับรู้ไปแล้วในครึ่งปีแรก รวมทั้งเพิ่มฐานลูกค้างานโครงการให้มากขึ้น

ดังนั้นมั่นใจว่าภาพรวมผลการดำเนินงานปี 2566 จะมีรายได้จากการขาย 1,200 ล้านบาท หรือเติบโตไม่ต่ำกว่า 30% จากปี 2566 ที่มีรายได้จากการขาย 909 ล้านบาท โดยในช่วงไตรมาส 1/2566 มีรายได้รวมแล้ว 263 ล้านบาท ขณะที่แผนการขยายตลาดต่างประเทศจะมุ่งเน้นกลุ่มประเทศ CLMV โดยเฉพาะประเทศกัมพูชา เนื่องจากภาคการก่อสร้างค่อนข้างขยายตัวสูง และได้ทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญในตลาดเข้ามาช่วย อย่างไรก็ตามปีนี้จะเป็นปีแรกที่มีรายได้จากการขายต่างประเทศเข้ามาชัดเจนไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท จากเดิมเป็นรายได้จากการขายระหว่างชายแดน (เป็นรายได้ในประเทศ)

นายอรรถพล กล่าวอีกว่า ในปี 2566 เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม และเป็นปีที่ DPAINT มีการปรับโครงสร้าง และการดำเนินธุรกิจในหลายส่วน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานให้ได้สูงสุด เชื่อว่าในปีถัดไปจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับการผลักดันวิสัยทัศน์ที่จะสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน และมุ่งสู่การเป็น 1 ในผู้นำอุตสาหกรรมสี และเคมีภัณฑ์ก่อสร้างแบบครบวงจร ซึ่งภายใน 3 ปีจะมีรายได้จากการขายเพิ่มขึ้น 100% หรือแตะระดับ 2,000 ล้านบาท ภายในปี 2568

ด้านบทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด แนะนำ “ซื้อ” หุ้น DPAINT ให้ราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2566 อยู่ที่ 9.20 บาทต่อหุ้น มี Upside gain 69.6% โดยราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายที่อัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิ (PER) ปี 2566 ต่ำเพียง 14.7 เท่า เทียบกับ TOA อยู่ที่ 25.6 เท่า ซึ่งไม่สะท้อนแนวโน้มผลการดำเนินงานที่คาดจะทำระดับสูงสุดใหม่ได้ต่อเนื่องในปี 2566-2567 จึงประเมินว่าราคาหุ้นปัจจุบันมี Downside ที่จำกัดแล้ว และคงประมาณการกำไรปกติปี 2566 อยู่ที่ 87 ล้านบาท เติบโต 57.1% จากปี 2565

นอกจากนี้มีมุมมองเป็นบวกต่อประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. 2566 ที่ผ่านมา เนื่องจากปกติตามปัจจัยฤดูกาล โดยรายได้ไตรมาส 2 จะชะลอลงจากไตรมาส 1 แต่จากการออกสินค้าใหม่กลุ่มเคมีภัณฑ์ก่อสร้างเพิ่มขึ้นราว 20 ตัว รวมถึงการขยายช่องทางจัดจำหน่าย Traditional Trade เพิ่มราว 220 ร้านค้า ทำให้คาดว่ารายได้ไตรมาส 2/2566 จะเติบโตทั้งจากไตรมาส 1/2566 และไตรมาส 2/2565 อยู่ที่ 271 ล้านบาท ทำระดับสูงสุดใหม่ (นิวไฮ) ส่วนอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) คาดว่าจะทรงตัว ทั้งจากไตรมาส 1/2566 และไตรมาส 2/2565 อยู่ที่ 39.3%

อย่างไรก็ตามบริษัทจะรับรู้ค่าใช้จ่ายการขายมากขึ้น จากการรับรู้ค่าใช้จ่ายของผู้บริหารรายใหม่เพิ่มขึ้นเต็มไตรมาสเป็นไตรมาสแรก ประกอบกับการรับรู้ค่าใช้จ่ายของทีมขายใหม่ที่เข้ามามากขึ้น ซึ่งอาจต้องใช้เวลาช่วงแรกในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำรายได้ให้สูงขึ้น ดังนั้นโดยรวมคาดว่ากำไรปกติในไตรมาส 2/2566 จะอยู่ที่ 13.5 ล้านบาท ลดลง 16.3% จากไตรมาส 1/2566  และเติบโต 5.9% จากไตรมาส 2/2565

ขณะที่ประเมินครึ่งปีหลังของปี 2566 กำไรของ DPAINT จะเติบโตจากช่วงเดียวกันของปี 2565 และจากครึ่งปีแรกของปี 2566 ตามการรับรู้รายได้สินค้ากลุ่มเคมีภัณฑ์ก่อสร้างมากขึ้น ทั้งสินค้าที่เริ่มวางจำหน่ายในครึ่งปีแรก  และสินค้าใหม่เพิ่มอีก 10 ตัว ซึ่งตั้งเป้าหมายมีรายได้จากกลุ่มนี้ 120 ล้านบาท  หรือคิดเป็น 10% ของรายได้รวม รวมทั้งขยายสู่ธุรกิจจัดซื้อ (Sourcing) วัสดุก่อสร้าง โดยประเมินว่าพนักงานขายใหม่จะมีประสิทธิภาพในการสร้างรายได้ที่สูงขึ้น ช่วยหนุนอัตรากำไรสุทธิของบริษัท และจะเริ่มเห็นรายได้จากการส่งออกสินค้าไปกลุ่มประเทศ CLMV หลังจากได้ Dealer ที่มีความเชี่ยวชาญในตลาดกัมพูชา ซึ่งจะเริ่มรับรู้รายได้ในเดือน ก.ค. 2566 และตั้งเป้าหมายรายได้ต่างประเทศ 20 ล้านบาท ในปีนี้ (ไม่รวมในประมาณการ)

นอกจากนี้ยังคงมุมมองบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการ  DPAINT โดยในปี 2567 ประเมินกำไรปกติจะเติบโตทำนิวไฮต่อเนื่อง และมีกำไรสุทธิ 112 ล้านบาท และมีรายได้จากการขาย 1,205 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2566 ที่คาดว่าจะมีกำไรสุทธิ 87 ล้านบาท และรายได้จากการขาย 1,012 ล้านบาท ซึ่งมาจาก

  1. การเติบโตของธุรกิจหลักตามการขยายช่องทางจัด จำหน่ายและเครื่องผสมสี
  2. สัดส่วนรายได้ธุรกิจเคมีภัณฑ์ก่อสร้างมากขึ้น ซึ่งหวังเพิ่มสัดส่วนขึ้นเป็น 25%
  3. รายได้ส่งออกชัดเจนขึ้น และ
  4. รายได้สูงขึ้นจะหนุนอัตรากำไรสุทธิสูงขึ้นตาม

Back to top button