MCA บวก 3% ลั่นเป้าปีนี้โกยรายได้โต 30% ตุนแบ็กล็อกกว่า 240 ล้าน

MCA บวก 3% ลั่นเป้าปีนี้โกยรายได้ 600 ล้าน โต 30% พร้อมแย้มผลงานไตรมาส 1/67 ออลไทม์ไฮ ทั้งรายได้และกำไร ตุนงานในมือกว่า 240 ล้านบาท ล่าสุดวานนี้เซ็นรับงานกิจกรรมทางการตลาดกับ “สีโจตัน” มูลค่าราว 40 ล้านบาท เริ่มงาน 1 มี.ค.นี้


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (8 ก.พ. 67) ราคาหุ้น บริษัท มาร์เก็ต คอนเน็กชั่นส์ เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ MCA ณ เวลา 10:22 น. อยู่ที่ระดับ 3.24 บาท บวก 0.08 บาท หรือ 2.53% สูงสุดที่ระดับ 3.54 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 3.12 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 250.26 ล้านบาท

โดยก่อนหน้านี้นายภักดี เหล่างาม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MCA เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2567 มีโอกาสที่จะทำสถิติสูงสุดใหม่ (ออลไทม์ไฮ) ทั้งในแง่รายได้ และกำไรสุทธิ เนื่องจากรายได้จากการให้บริการจัดกิจกรรมทางการตลาดและดิจิทัลเพิ่มขึ้น ตามความต้องการจัดกิจกรรมการตลาดของลูกค้าในช่วงไตรมาสแรก  หลังนับตั้งแต่ต้นปี 2567 ภาพรวมของกิจกรรมทางเศรษฐกิจคึกคักมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการจับจ่ายใช้สอยภายในประเทศ และภาคการท่องเที่ยวที่กลับมาคักคัก

ขณะที่นอกจากนี้ยังได้ปัจจัยบวกจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่อย่างมาตรการลดหย่อนภาษี หรือ Easy E–Receipt ที่ให้สิทธิหักลดหย่อนค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม–15 กุมภาพันธ์ 2567 ช่วยกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศในช่วงต้นปี  รวมทั้งยังเป็นช่วงเทศกาลแห่งความรัก และตรุษจีนด้วย ทำให้ลูกค้าในพอร์ตมากกว่า 40 ราย มีการเคลื่อนไหวทางการตลาด หรือใช้จ่ายกันค่อนข้างมาก และส่งผลดีต่อ MCA ทำให้มั่นใจผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2567 จะทำออลไทม์ไฮได้

นอกจากนี้ ตั้งแต่ปลายปี 2566 มาจนถึงเดือน ม.ค. 2567 มีการเซ็นสัญญารับงานลูกค้ารายใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น เช่น ยาหม่องตราถ้วยทอง ที่เริ่มร่วมงานกันมาตั้งแต่ปลายปี 2566 ขณะที่ล่าสุดวานนี้ (5 ก.พ. 2567) ได้เซ็นสัญญารับงานให้บริการจัดกิจกรรมทางการตลาด (Outsource) กับทางลูกค้าใหม่ คือ สีโจตัน (Jotun) มูลค่างานประมาณ 40 ล้านบาท ซึ่งจะต้องใช้พนักงานแนะนำสินค้าประมาณ 200 คน  อายุสัญญา 1 ปี และกำหนดเริ่มงานวันที่ 1 มี.ค. 2567 และมีการเซ็นสัญญารับงานกับ Outsource ให้กับ Moccona ซึ่งต้องใช้พนักงานแนะนำสินค้าประมาณ 200 คน รวมทั้งปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจา และรอเซ็นสัญญาเพิ่มเติมลูกค้าใหม่เพิ่มอีก 2-3 ราย ซึ่งหากมีความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบต่อไป

ทั้งนี้ ณ เดือน มกราคม 2567 บริษัทมีงานในมือที่เซ็นสัญญาแล้ว มูลค่ารวม 240 ล้านบาท แบ่งเป็น งานที่เซ็นสัญญาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2566 ที่ผ่านมา มูลค่า 120 ล้านบาท และเซ็นสัญญาเมื่อเดือน มกราคม 2567 ที่ผ่านมา มูลค่า 120 ล้านบาท ภายใต้สัญญาของลูกค้ากว่า 10 ราย เช่น เป๊ปซี่-โคล่า ที่บริการจัดเรียงสินค้า (Merchandiser) มูลค่างาน 80-90 ล้านบาทต่อปี, สยามเฮลท์ เจ้าของ Smooth-E/Dentiste มูลค่างาน  60 ล้านบาทต่อปี, BETAGRO มูลค่างานเฉลี่ย 10 ล้านบาทต่อปี, แลคตาซอย, Mars และอื่น ๆ

นายภักดี กล่าวต่อว่า แผนการดำเนินงานในปี 2567 บริษัทตั้งเป้าหมายมีรายได้รวมประมาณ 600 ล้านบาท เติบโตประมาณ 30% จากปี 2566 ที่น่าจะทำรายได้รวมได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ประมาณ 480 ล้านบาท เติบโตประมาณ 35% จากปี 2565 ที่มีรายได้รวม 370 ล้านบาท และจะสามารถผลักดันกำไรทั้งปี 2566 ให้เติบโตด้วย หลัง 9 เดือนแรกของปี 2566 มีรายได้รวมกว่า 320 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 18 ล้านบาท สูงกว่าทั้งปี 2565 ที่มีกำไรสุทธิ 16 ล้านบาท สอดคล้องกับรายได้ทุกธุรกิจกลับมาขยายตัวหลังโควิด-19 จบลง

สำหรับในปี 2567 บริษัทคาดว่ารายได้ธุรกิจบริการจัดกิจกรรมทางการตลาดและดิจิทัล (Marketing activities and Digital) จะเติบโต 15% ขณะที่รายได้ธุรกิจบริการพนักงานแนะนำสินค้า (Product Consultant) จะเติบโต 50% และธุรกิจใหม่ คือ ผู้จัดจำหน่ายสินค้า (Distributor) เข้ามาเสริมในปี 2567 จากปี 2566 ที่มีรายได้ประมาณ 15 ล้านบาท และในปี 2567 ตั้งเป้าหมายเพิ่มรายได้ในส่วนนี้แตะระดับ 50 ล้านบาท หรือเติบโต 3 เท่า จากปี 2566 รวมทั้งยังจะมีบริการใหม่ ๆ เพิ่มเข้ามาด้วย

“มูลค่างานที่เซ็นสัญญาในมือ ณ เดือน มกราคม 2567 มูลค่ากว่า 240 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 40% ของเป้าหมายรายได้ทั้งปี 2567แล้ว และยังมีโอกาสที่จะรับงานในทุกธุรกิจเข้ามาอย่างต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี คาดว่าภายในกลางปี 2567 น่าจะมีการปรับเป้าหมายการเติบโตขึ้นอีก แต่ต้องรอปิดงบไตรมาส 2/2567 ก่อน อีกทั้งบริษัทจะพยายามรักษาสัดส่วนการรับงานสัญญาระยะยาวไว้ประมาณ 50% และงานสัญญาระยะสั้นประมาณ 50% เนื่องจากงานสัญญาระยะสั้นมีมาร์จิ้นที่สูง” นายภักดี กล่าว

ส่วนผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2566 และทั้งปี 2566 ออกมาตามเป้าหมายที่วางไว้ตามที่ได้กล่าวไปข้างต้น และสามารถรักษาระดับกำไรไว้ในระดับเดียวกันทางนักวิเคราะห์ประเมินไว้ เบื้องต้นจะมีการประชุมคณะกรรมการ เพื่ออนุมัติงานการเงินปี 2566 และประกาศงบฯ ในวันที่ 27 ก.พ. 2567 นี้

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) คาดการณ์กำไรสุทธิปี 2566-2567 ของ MCA ไว้ที่ 31 ล้านบาท ในปี 2566 เพิ่มขึ้น 87% จากปีก่อน และปี 2567 อยู่ที่ 54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 75% จากปีก่อน และคาดว่าจะรายได้จากการให้บริการรวมในช่วงปี 2566-2567 เพิ่มขึ้น 22.8% และ เพิ่มขึ้น 23.3% ตามลำดับ

Back to top button