ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 396 จุด! รับ BOJ ใช้นโยบายดอกเบี้ยติดลบ

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ (29 ม.ค.) หลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ตัดสินใจใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ


สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 396.66 จุด หรือ 2.47% ปิดที่ 16,466.30 จุด, ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 46.88 จุด หรือ 2.48% ปิดที่ 1,940.24 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 107.27 จุด หรือ 2.38% ปิดที่ 4,613.95 จุด

ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นหลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงนโยบายการเงินไว้ในการประชุมเมื่อวานนี้ พร้อมกับมีมติให้ใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ โดย BOJ จะเรียกเก็บดอกเบี้ยที่อัตรา -0.1% สำหรับเม็ดเงินที่สถาบันการเงินต่างๆนำมาสำรองฝากไวักับ BOJ โดยเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายการเงินของ BOJ ลงมติด้วยคะแนนเสียง 5 ต่อ 4 ในการตัดสินใจใช้อัตราดอกเบี้ยติดลบดังกล่าว ขณะเดียวกัน BOJ ยังให้คำมั่นที่จะเพิ่มฐานเงินที่อัตรา 80 ล้านล้านเยนต่อปี

นอกจากนี้ BOJ ยังได้เลื่อนช่วงเวลาในการบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% ออกไปอีก ความเคลื่อนไหวของ BOJ อยู่เหนือการคาดหมายของนักวิเคราะห์ในวอลล์สตรีท ซึ่งส่วนใหญ่คาดว่า BOJ จะใช้มาตรการผ่อนคลายเพิ่มเติมและไม่คาดว่าจะใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ โดย BOJ ระบุว่าจะเริ่มใช้อัตราดอกเบี้ยติดลบตั้งแต่วันที่ 16 ก.พ. เป็นต้นไป เนื่องจากการปรับตัวลดลงของราคาน้ำมันส่งผลให้ธนาคารไม่สามารถบรรลุเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อที่ระดับ 2% ได้ ในขณะที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้ใช้นยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบไปก่อนหน้านี้แล้ว

ทั้งนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐยังได้รับปัจจัยหนุนจากรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่เปิดเผยว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) เบื้องต้นสำหรับไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว ขยายตัวเพียง 0.7% โดยลดลงจาก 2.0% ในไตรมาส 3 และต่ำกว่าระดับ 3.9% ในไตรมาส 2 ข้อมูลเศรษฐกิจดังกล่าวกระตุ้นการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) อาจจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไป เนื่องจากเศรษฐกิจยังคงอ่อนแอ

หุ้น Amazon.com ร่วงลง 7.61% หลังบริษัทอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่เปิดเผยผลประกอบการประจำไตรมาสที่ต่ำเกินคาด, หุ้นฮันนีย์เวลล์ อินเตอร์เนชั่นแนล อิงค์ พุ่งขึ้น 5.6% หลังจากบริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการสำหรับปี 2559 ส่วนหุ้นวีซ่า อิงค์ พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 15 เดือนหลังเปิดเผยผลประกอบการที่สูงเกินคาด เนื่องจากยอดค่าใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น

Back to top button