หุ้นยุโรปปิดร่วง ตลาดวิตกราคาน้ำมันซบ-เศรษฐกิจโลกชะลอตัว

ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (11 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเศรษฐกิจทั่วโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง


สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 3.7% ปิด (11 ก.พ.) ที่ 303.58 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2556, ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3,896.71 จุด ร่วงลง 164.49 จุด หรือ -4.05%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 8,752.87 จุด ลดลง 264.42 จุด หรือ -2.93% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,536.97 จุด ลดลง 135.33 จุด หรือ -2.39%

นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับราคาน้ำมัน WTI ตลาดนิวยอร์กที่ร่วงลงหลุดจากระดับ 27 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้ หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคูชิง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐ พุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์

นอกจากนี้ นักลงทุนยังกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) กล่าวเมื่อวานนี้ว่า การเปลี่ยนแปลงในเศรษฐกิจโลกได้สร้างความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจสหรัฐ พร้อมกับแสดงความกังวลต่อการทรุดตัวลงอย่างมากของราคาพลังงาน และการแข็งค่าขึ้นของดอลลาร์

หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงอย่างหนักและเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ฉุดตลาดหุ้นยุโรปอ่อนแรงลงด้วย โดยหุ้นเครดิต สวิส ร่วงลง 8.4% และปิดที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2534 หุ้นยูนิเครดิต ร่วงลง 7%} หุ้นโซซิเอเต เจเนอราล (ซอคเจน) ธนาคารรายใหญ่ของฝรั่งเศส ดิ่งลง 13% หลังจากธนาคารเปิดเผยกำไรสุทธิในไตรมาส 4/2558 ที่ระดับ 656 ล้านยูโร (741 ล้านดอลลาร์) ซึ่งแม้ว่าเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2557 ที่ระดับ 549 ล้านยูโร แต่ตัวเลขดังกล่าวยังน้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ประมาณ 944 ล้านยูโร

หุ้นริโอ ทินโต บริษัทเหมืองแร่รายใหญ่ระดับโลก ร่วงลง 3.4% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรในปี 2558 ร่วงลงอย่างหนักถึง 51% สู่ระดับ 4.5 พันล้านดอลลาร์ จากปี 2557 ที่ระดับ 9.3 พันล้านดอลลาร์ เนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวลง จากผลพวงของเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลง

Back to top button