SAWAD เด้ง 4% รับข่าว “DSI-อัยการ” สั่งไม่ฟ้อง ฟื้นความเชื่อมั่น

SAWAD เด้งบวก 4% รับข่าวดีหลัง DSI และอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องกรณีถูกร้องเรียนคิดดอกเบี้ยเกินอัตรา พ้นข้อกล่าวหาทั้งบริษัทแม่และบริษัทย่อย ส่งผลบวกต่อภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นนักลงทุน


ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ ( 5 มิ.ย.68) ราคาหุ้น บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD ณ เวลา 10:26 น. อยู่ที่ระดับ 18.70 บาท บวก 0.70 บาท หรือ 3.89% สูงสุดที่ระดับ 19.00 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 18.60 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 115.05 ล้านบาท

โดยราคาหุ้น SAWAD ปรับตัวขึ้นวันนี้หลังแจ้งผ่าน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ตามที่ปรากฏข่าวในสื่อออนไลน์และสื่อสิ่งพิมพ์ เรื่องที่มีบุคคลเข้าร้องเรียน บมจ. ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น และบริษัทย่อยต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ในประเด็นการคิดดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และกรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับเรื่องดังกล่าวเป็นคดีพิเศษตั้งแต่ปี 2567 นั้น

ล่าสุด บริษัทฯ ได้รับหนังสือที่ ยธ 0824/1950 จากกรมสอบสวนคดีพิเศษแล้ว ตั้งแต่วันที่ 30 พฤษภาคม 2568 โดยมีข้อสรุปว่าอธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษได้พิจารณาแล้วมีคำสั่งไม่ฟ้อง บมจ. ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น และบริษัทย่อยอีก 4 บริษัท ในความผิดฐานร่วมกันให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินโดยเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้ ตามพระราชบัญญัติห้ามเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ. 2560 มาตรา 4 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83

ทั้งนี้ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษได้พิจารณาแล้ว และมีความเห็นไม่แย้งคำสั่งของพนักงานอัยการที่มีคำสั่งไม่ฟ้อง

บริษัทฯ จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบว่า บริษัทและบริษัทย่อย มิได้เรียกเก็บดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดแต่อย่างใด

ขณะที่ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) หรือ KSS ระบุว่า จากกรณี DSI ได้พิจารณาแล้วมีคำสั่งไม่ฟ้อง บมจ. ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น และบริษัทย่อยอีก 4 บริษัทในความผิดฐานร่วมกันให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินโดยเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฏหมายกำหนดไว้

โดยฝ่ายวิเคราะห์มีมุมมอง slightly positive sentiment ต่อข่าว DSI มีคำสั่งไม่ฟ้องกลุ่ม SAWAD ในประเด็นการเก็บดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้ เพราะ SAWAD พ้นข้อกล่าวหา ซึ่งจะส่งผลบวกต่อ brand reputation ของบริษัท

บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด มีมุมมองบวกจากข่าวคืบหน้าล่าสุดที่คาดจะส่งผลบวกเชิงจิตวิทยาต่อราคาหุ้นที่ลดลงถึง 52% ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา ทำให้ราคาหุ้นมี upside สูงถึง 39% ขณะที่ Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 68 เฉลี่ย 4,878 ล้านบาท ลดลง 3% จากปีก่อนหน้า และคาดกำไรไตรมาส 2/68 เฉลี่ย 1,169 ล้านบาท ลดลง 8% จากปีก่อนหน้า เพิ่มขึ้น 6% จากไตรมาสก่อน ขณะที่นโยบายจ่ายปันผลมีโอกาสปรับเปลี่ยนมาจ่ายเป็นเงินสดจากเดิมที่จ่ายเป็นหุ้นปันผลจึงแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร”

Back to top button