TSTH พุ่ง 17% นำทีมหุ้นเหล็ก รับราคาตลาดโลกพุ่ง –โชว์กำไร Q1 โต 3 เท่าตัว

หุ้นกลุ่มเหล็กวิ่งคึก TSTH นำทีมพุ่งกว่า 17% รับแรงหนุนราคาสินค้าเหล็กโลกปรับขึ้นต่อเนื่อง ขานรับดีมานด์เหล็กจีน-กำไรไตรมาสแรกโต 3 เท่าตัว


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (18 ก.ค.68) ณ เวลา 10:43 น. ราคาหุ้น บริษัท ทาทา สตีล (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TSTH อยู่ที่ระดับ 0.86 บาท บวก 0.13 บาท หรือ 17.81% สูงสุดที่ระดับ 0.93 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 0.83 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 18.86 ล้านบาท

บริษัท ซีเอสพี สตีลเซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CSP อยู่ที่ระดับ 0.57 บาท บวก 0.06 บาท หรือ 11.76% สูงสุดที่ระดับ 0.62 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 0.52 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.24 ล้านบาท

บริษัท มิลล์คอน สตีล จำกัด (มหาชน) หรือ MILL อยู่ที่ระดับ 0.09 บาท บวก 0.01 บาท หรือ 12.50% สูงสุดที่ระดับ 0.09 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 0.08 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 0.09 ล้านบาท

บริษัท บางสะพานบาร์มิล จำกัด (มหาชน) หรือ BSBM อยู่ที่ระดับ 0.73 บาท บวก 0.04 บาท หรือ 5.80% สูงสุดที่ระดับ 0.75 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 0.72 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 0.55 ล้านบาท

สำหรับราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมา ตอบรับราคาสินค้าเหล็กและแร่เหล็กในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สะท้อนความต้องการใช้เหล็กกล้าที่แข็งแกร่งในจีน ท่ามกลางมาตรการควบคุมการผลิตในภูมิภาคหลัก

โดยราคาสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเหล็กเส้นในตลาดเซี่ยงไฮ้ (SHFE) ส่งมอบเดือนมีนาคม 2569 เพิ่มขึ้น 38 หยวน แตะ 3,204 หยวนต่อตัน ขณะที่สัญญาซื้อขายแร่เหล็กล่วงหน้าในตลาดต้าเหลียน (DCE) ซึ่งเป็นสัญญาซื้อขายมากที่สุดสำหรับเดือนกันยายน ปรับขึ้น 1.3% แตะระดับ 781.5 หยวนต่อตัน หรือประมาณ 108.87 ดอลลาร์สหรัฐ

เช่นเดียวกับตลาดสิงคโปร์ สัญญาแร่เหล็กส่งมอบเดือนสิงหาคม (SZZFQ5) ขยับขึ้น 0.66% สู่ระดับ 100.6 ดอลลาร์ต่อตัน สะท้อนแนวโน้มตลาดโลกที่ยังคงได้รับแรงหนุนจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและอุตสาหกรรมก่อสร้างของจีน

อย่างไรก็ตาม TSTH รายงานผ่านผลประกอบการงวดไตรมาส 1/68 (สิ้นสุดเดือน มิ.ย.68) มีกำไรสุทธิ 373.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 316.08% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 89.68 ล้านบาท

โดยเป็นผลมาจากปริมาณขายสินค้าของบริษัทในไตรมาสนี้อยู่ที่ 338,000 ตัน สูงกว่าปริมาณขายสินค้าที่ 328,000 ตันในไตรมาสก่อน หน้านี้จากความต้องการสินค้าภายในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้นจากความเชื่อมั่นของตลาดเหล็กเส้นที่ปรับตัวดีขึ้น เมื่อเทียบ กับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ปริมาณขายสูงขึ้นเนื่องจากยอดขายเหล็กเส้นในประเทศเพิ่มขึ้น แต่ถูกชดเชยบางส่วน ด้วยยอดขายเหล็กลวดและยอดขายส่งออกที่ลดลง

สำหรับรายได้จากการขายและบริการที่เกี่ยวข้องในไตรมาสนี้อยู่ที่ 6,838 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า เนื่องมาจาก ปริมาณการขายและราคาขายที่สูงขึ้น หากเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน รายได้ที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจาก ปริมาณการขายที่เพิ่มมากขึ้น

Back to top button