BH บวก 7% รับนักท่องเที่ยวตะวันออกกลางฟื้น โบรกชี้มีอัพไซด์ 24% ชูเป้า 200 บาท

BH บวก 7% นำกลุ่มโรงพยาบาล รับนักท่องเที่ยวตะวันออกกลางฟื้นตัว โบรกชี้ผลงานไตรมาส 2/88 ฟื้นตัว มองหุ้นมีอัพไซด์ 24% พร้อมให้คำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 200 บาท


ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (30 ก.ค.68) ราคาหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลปรับตัวขึ้น ณ เวลา 15:53 น. ตอบรับข่าวนักท่องเที่ยวตะวันออกกลางฟื้นตัว นำโดยบริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BH อยู่ที่ระดับ 162.50 บาท บวก 11.00 บาท หรือ 7.26% สูงสุดที่ระดับ 162.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 151.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1,975.38 ล้านบาท

บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด(มหาชน) หรือ BDMS อยู่ที่ระดับ 21.60 บาท บวก 0.30 บาท หรือ 1.41%สูงสุดที่ระดับ 21.70 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 21.30 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1,972.19 ล้านบาท

บริษัท โรงพยาบาลจุฬารัตน์ จำกัด (มหาชน) หรือ CHG อยู่ที่ระดับ 1.75 บาท บวก 0.02 บาท หรือ 1.16% สูงสุดที่ระดับ 1.77 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 1.72 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 33.84 ล้านบาท

บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) หรือ BCH อยู่ที่ระดับ 14.00 บาท บวก 0.10 บาท หรือ 0.72% สูงสุดที่ระดับ 14.20 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 13.90 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 93.02 ล้านบาท

บล.กรุงศรี ระบุว่าราคาหุ้นโรงพยาบาลมีโมเมนตัมเด่นเช้าวันนี้ 30 ก.ค. พร้อมทั้งกำลังทดสอบเส้นค่าเฉลี่ย EMA 75 วัน อิงภาคบริการที่มีสัญญาณฟื้นตัวต่อเนื่อง ผสานปัจจัยเร่งอื่น และหุ้นยัง Laggard ภาคบริการอื่นมีโอกาสเด่นต่อ โดยประเมินแรงสนับสนุนหลักมาจากภาคบริการ และนักท่องเที่ยวต่างชาติฟื้น 3 สัปดาห์ติดต่อกัน

ทั้งนี้ ฝ่ายนักวิเคราะห์คาดการณ์นักท่องเที่ยวตะวันออกกลาง เดือน ก.ค.68 จะขึ้นทำจุดสูงสุดรายเดือนเหมือนทุกปี พร้อมจับตารายงานที่จะออกช่วงปลายสัปดาห์นี้-ต้นสัปดาห์หน้า รวมไปถึง มีจิตวิทยาบวกราคาน้ำมันเร่งขึ้นต่อเนื่อง 2 วันทำการ สนับสนุนกำลังซื้อคนไข้ตะวันออกกลางกำลังเข้าสู่ช่วงฤดูกาลไตรมาส 3/68 ซึ่งนับเป็นปลายฝนต้นหนาว

นอกจากนี้ กลุ่มโรงพยาบาล ยังถือเป็นหนึ่งในกลุ่มอิงภาคบริการที่ให้ผลตอบแทน (YTD Return) ติดลบถึง 18.6% ขณะที่ดัชนี SET ติดลบ 11.9% และกลุ่มโรงแรมอยู่ที่ 13.7% สะท้อนว่ากลุ่มโรงพยาบาลยังอยู่ในสถานะ “Deep Value” โดยมีค่า Forward PER เฉลี่ยต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวมากกว่า 1 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) ที่ระดับ 19.4 เท่า

เมื่อพิจารณาประกอบกับแนวโน้มเม็ดเงินลงทุนต่างชาติ (Fund Flows) ที่ยังมีทิศทางไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นกลุ่ม Emerging Market โดยเฉพาะไทยที่กลับมาเป็นจุดสนใจอีกครั้ง คาดว่าหุ้นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ อาทิ BH และ BDMS จะเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ถูกปรับสถานะเข้าสู่แรงซื้อในลำดับต้น ๆ

ขณะที่ในทางพื้นฐาน ฝ่ายนักวิเคราะห์แนะนำ “ซื้อ” หุ้น BDMS ให้ราคาเป้าหมาย 33 บาท รวมทั้ง BH ให้ราคาเป้าหมาย 200 บาท และคงเลือก BDMS เป็น Top Picks ในกลุ่มโรงพยาบาล

ส่วน บล.ลิเบอร์เรเตอร์ ระบุว่า ราคาหุ้น BH ขึ้นมาแรงจากประเด็นแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/68 คาดการณ์ว่าจะฟื้นตัวดีขึ้นจากไตรมาส 1/68 หลักๆ จากการกลับมาของผู้ป่วยต่างชาติ โดยเฉพาะกลุ่มตะวันออกกลาง ซึ่งเป็น Medical Tourism ที่สำคัญ แม้ปัญหาผู้ป่วยจากคูเวตจะยังมี แต่มองว่ามีผลกระทบต่อรายได้ไม่มาก เพราะคิดเป็นสัดส่วนเพียง 2% ของรายได้ผู้ป่วยต่างชาติ

นอกจากนั้น บริษัทมีการปรับขึ้นค่าบริการช่วงต้นปี ช่วยชดเชยรายได้ที่อ่อนตัวในช่วงรอมฏอนและการหายไปของคนไข้คูเวตกับ UAE องค์รวมภาพธุรกิจจึงฟื้นตัวตามคาดและมีโอกาสเติบโตในครึ่งปีหลัง คาดการณ์กำไรสุทธิปี 68 ไว้ที่ราว 7,900 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 7,774 ล้านบาทในปี 67

Back to top button