
SAWAD เด้ง 2% โบรกชี้สินเชื่อ Q3 ฟื้นตัว อัพเป้ากำไรปีนี้แตะ 5.3 พันล้านบาท
SAWAD บวก 2% รับสัญญาณสินเชื่อไตรมาส 3/68 ฟื้นตัว หนุนทั้งปีเติบโต 5–10% ขณะที่ NIM ครึ่งปีหลังแนวโน้มทยอยปรับดีขึ้นจากต้นทุนทางการเงิน credit cost และขาดทุนรถยึดที่ลดลง โบรกชี้ Valuation ยังถูก ฟาก บล.ฟิลลิป ปรับเพิ่มกำไร SAWAD ปี 68 แตะ 5.3 พันลบ.
ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (19 ส.ค.68) ราคาหุ้น บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD ณ เวลา 10.04 น. อยู่ที่ระดับ 24.40 บาท บวก 0.60 บาท หรือ 2.52% สูงสุดที่ระดับ 24.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 24.20 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 66.20 ล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ระบุถึง SAWAD คาดการณ์สินเชื่อจะกลับมาเติบโตได้บ้าง ในไตรมาส 3 ปี 2568 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า โดยจะเน้นเติบโตสินเชื่อจำนำทะเบียน ส่วนสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์น่าจะทรงตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า
ขณะที่ บริษัทยังคงเป้าสินเชื่อเติบโต 5-10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนในปี 2568 และตั้งเป้าเติบโตสินเชื่อ 15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในปี 2569
สำหรับทิศทาง NIM ครึ่งหลังปี 2568 น่าจะทยอยฟื้นตัวจากครึ่งปีแรกจากแนวโน้ม Cost of funds เริ่มทยอยลดลงได้บ้าง ส่วนแนวโน้มขาดทุนจากการขายรถยึดและ credit cost จะทยอยลดลงในครึ่งหลังปี 2568 หลังจากได้เร่งบริหารจัดการหนี้เสียไปมากแล้ว ทั้งนี้ ฝ่ายนักวิเคราะห์ประเมินว่าทิศทางผลการดำเนินงานครึ่งหลังปี 2568 จะยังอยู่ในเกณฑ์ดี ขณะที่ valuation metrics ถูกกว่ากลุ่ม Retail Finance มาก จึงแนะนำซื้อ
บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มองภาพของ SAWAD พร้อมที่จะกลับมาโตอีกครั้ง โดยเฉพาะแนวโน้มของสินเชื่อที่เติบโตกลับมาเร็วกว่าคาด โดยที่สินเชื่อจำนำทะเบียนรถที่เริ่มเห็นสัญญาณการกลับมาฟื้นตัวขึ้นในไตรมาส 2/68 ซึ่งในครึ่งปีแรกสามารถเติบโตสวนทางสินเชื่ออื่นๆได้ 1.5% ประกอบกับ กลยุทธ์ของ SAWAD ที่หันมาเน้นสินเชื่อที่ให้ผลตอบแทนที่สูงขึ้น ทำให้สามารถช่วยหนุนต่อกำไรของ SAWAD
นอกจากนี้ SAWAD ยังเร่งปรับปรุงคุณภาพสินทรัพย์ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ช่วงที่เหลือของปีรถที่ยึดเข้ามาน่าจะมีจำนวนลดน้อยลงเรื่อยๆ ส่งผลต่อแนวโน้มค่าใช้จ่ายจะลดลงได้อีก และทิศทางดอกเบี้ยขาลงส่งผลบวกต่อต้นทุนการเงินของ SAWAD ทำให้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 68 เพิ่มเป็น 5.3 พันล้านบาท จากเดิมคาดไว้ที่ 5 พันล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด(มหาชน) หรือ KSS ระบุว่า มีมุมมอง slightly positive ต่อกำไรสุทธิไตรมาส 2/68 หลังจาก SAWAD แจ้งผลประกอบการดีกว่าคาด จึงได้ปรับเป้าหมายกำไรสุทธิปี 2568-2570 เพิ่มขึ้นอีกปีละ 8-9% มาอยู่ที่ 4,677 ล้านบาท, 4,873 ล้านบาท และ 5,281 ล้านบาท จากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน(OPEX) ที่ต่ำกว่าคาด พร้อมปรับราคาเป้าหมายจากเดิม 19 บาท เป็น 24 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด ระบุ SAWAD รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/68 ที่ 1,270 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.4% จากไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่ม 0.4% จากไตรมาสเดียวกันปีก่อน ซึ่งดีกว่าตลาดคาด 13% จากรายได้ดอกเบี้ยรับสุทธิขยายตัว 2.9% จากไตรมาสก่อนหน้า โดยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถกลับมาโตครั้งแรกในรอบ 4 ไตรมาส ด้านส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยหรือ NIM ขึ้นสู่ 14.7% จาก 14% ในไตรมาส 1/68 คุณภาพสินทรัพย์ พบว่า NPL Ratio ขึ้นเพียงเล็กน้อยสู่ 3.7% จาก 3.6% ส่วนแนวโน้มไตรมาส 3/68 คาดยังขยายตัวต่อ จากสินเชื่อเร่งขึ้น และ NIM เพิ่มขึ้น และผลขาดทุนรถยึดน้อยลง จึงให้ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 24.00 บาท
ขณะที่ นางสาวธิดา แก้วบุตตา ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์องค์กร SAWAD เปิดเผยว่า สำหรับแนวโน้มและกลยุทธ์ธุรกิจในช่วงครึ่งหลังปี 68 บริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญกับคุณภาพพอร์ตสินเชื่อและปรับสัดส่วนการปล่อยสินเชื่อให้เหมาะสมกับภาวะการแข่งขันและความเสี่ยงของแต่ละประเภทสินเชื่อ มุ่งเน้นการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการบริการด้านสินเชื่อ รวมถึงการพัฒนาแพลตฟอร์มประกันออนไลน์อย่างครบวงจรที่จะเป็นอีกปัจจัยสำคัญในการเติบโตของธุรกิจให้ก้าวกระโดด
ขณะเดียวกันด้าน Digital Transformation โครงการ e-KYC และ Mobile Lending Platform มีความคืบหน้าอย่างชัดเจน และอยู่ระหว่างการเตรียมเปิดใช้งานเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 4 ปี 2568 ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวกในการสมัครสินเชื่อ ลดเวลาการอนุมัติ และลดต้นทุนการหาลูกค้าใหม่ในระยะยาว
ล่าสุด SAWAD ประสบความสำเร็จในการเสนอขายหุ้นกู้ 4 รุ่น มูลค่ารวม 5,000 ล้านบาท โดยมีกระแสตอบรับอย่างท่วมท้นจากนักลงทุนสถาบันและสหกรณ์ ส่งผลให้ยอดจองซื้อเกินยอดจัดสรรกว่า 2 เท่า สะท้อนความเชื่อมั่นในศักยภาพการเติบโตและสถานะทางการเงินที่มั่นคงของบริษัทฯ อย่างชัดเจน
“การตอบรับอย่างล้นหลามของนักลงทุนต่อหุ้นกู้ SAWADเป็นสิ่งที่ยืนยันว่าเรายังคงเป็นตัวเลือกในการลงทุนที่มั่นคงในภาวะเศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอน ทั้งนี้ บริษัทฯมีแผนจะนำเงินไปชำระหุ้นกู้ที่ครบกำหนด ขยายพอร์ตสินเชื่อ และเป็นเงินค่าใช้จ่ายในกิจการที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจ” น.ส.ธิดา กล่าว