
PLUS วิ่ง 3% แย้มครึ่งหลังเด่น ลุ้น “ออเดอร์จีน” ล็อตใหญ่ ดันรายได้โต
PLUS บวกกว่า 3% ส่งสัญญาณครึ่งปีหลังเติบโตต่อเนื่อง เดินหน้าตามแผนเชิงรุกและสร้างโอกาสเติบโตระยะยาว ทั้งขยายฐานลูกค้า-ช่องทางจำหน่าย-ออกสินค้าใหม่ต่อเนื่อง แถมลุ้นออเดอร์จีนล็อตใหญ่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (17 ก.ย.68) ราคาหุ้น บริษัท โรแยล พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ PLUS ณ เวลา 10:08 น. อยู่ที่ระดับ 3 บาท บวก 0.10 บาท หรือ 3.45% สูงสุดที่ระดับ 3.08 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 2.94 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 0.66 ล้านบาท
นายพลแสง แซ่เบ๊ กรรมการผู้อำนวยการ PLUS เปิดเผยว่า ภาพรวมการดำเนินงานช่วงครึ่งหลังปีนี้เป็นไปในทิศทางที่ดี โดยเฉพาะตลาดสหรัฐฯ ที่ถือเป็นตลาดหลักของ PLUS ยังเป็นไปตามฤดูกาล โดยปกติไตรมาส 2 และ 3 เป็นช่วงไฮซีซั่น ส่วนตลาดในประเทศจีน ถือเป็นตลาดรองมาจากสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะได้รับออเดอร์เพิ่มขึ้น ทั้งจากลูกค้าใหม่และลูกค้าเก่า พร้อมมีโอกาสจะได้รับออเดอร์ล็อตใหญ่ จากลูกค้าในประเทศจีนเพิ่มอีกด้วย
ส่วนกรณีภาษีนำเข้าที่สหรัฐฯ เรียกเก็บจากสินค้า ที่นำเข้ามาจากประเทศไทยเพิ่มเป็น 19% บริษัทมีการทำงานร่วมกับลูกค้าในสหรัฐฯ ทั้งด้านโครงสร้างราคาและการบริหารต้นทุน จึงมั่นใจว่าจะไม่กระทบต่อราคาขายปลีกและไม่กระทบกับยอดขายของ PLUS ด้วย
นอกจากนี้ บริษัทได้ทำสัญญากับลูกค้าระยะยาว ที่มีความใกล้ชิดกันมานาน อีกทั้งปีนี้บริษัทยังมีการเปิดตัวสินค้า Co-Branding ร่วมกับพันธมิตรสหรัฐฯ ด้วย รวมถึงสินค้าใหม่กลุ่มน้ำมะพร้าว 100% จะเริ่มกระจายเข้าสู่ช่องทาง“วอลมาร์ท” (Walmart) ทำให้คาดว่าไตรมาส 4/2568 จะเริ่มรับรู้รายได้ชัดเจนขึ้น และช่วยผลักดันยอดขายในสหรัฐฯ ให้เติบโตโดดเด่นได้ช่วงปีนี้
ส่วนเงินบาทแข็งค่า บริษัทมีการวางกลยุทธ์ 1) กระจายพอร์ต ด้วยการขายหลากหลายสกุลเงิน ทั้งสกุลดอลลาร์สหรัฐ, สกุลบาท, สกุลหยวน และสกุลยูโร 2) ทำสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า (Forward Contract) ให้สอดคล้องกับคำสั่งซื้อล่วงหน้า 3) การจับคู่รายรับกับรายจ่าย 4) การเปิดบัญชี FCD (บัญชีเงินฝากสำหรับบุคคล ที่ต้องการฝากเงินเป็นสกุลเงินตราต่างประเทศ) เพื่อใช้จ่ายตรงตามสกุลนั้น ๆ ด้วย
ด้านความผันผวนของราคามะพร้าว มีการปรับสูงขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นปี แต่เริ่มเห็นสัญญาณการปรับตัวลดลงในไตรมาส 2/2568 ต่อเนื่องมาไตรมาส 3/2568 ด้วย ทำให้ช่วยหนุนให้อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทปรับตัวดีขึ้นได้ช่วงครึ่งปีหลัง ขณะที่ความขัดแย้งที่ยืดเยื้อในตะวันออกกลาง ส่งผลให้ค่าขนส่งและค่าระวางเรือเพิ่มสูงขึ้น ทำให้กำลังซื้อชะลอตัวลง แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทเร่งขยายลูกค้าในภูมิภาคดังกล่าวเพิ่มต่อเนื่อง
นายพลแสง กล่าวอีกว่า ช่วงที่ผ่านมา บริษัทได้เข้าร่วมงานแสดงสินค้าแล้ว 4 งานช่วยสร้างโอกาสและออเดอร์เพิ่มให้บริษัทต่อเนื่อง ปัจจุบันมีหลายออเดอร์ที่ได้รับมาจากการออกงานช่วงที่ผ่านมา มีการส่งสินค้าไปบ้างแล้ว และมียอดคำสั่งซื้อซ้ำเข้ามาแล้วด้วย
ขณะที่ช่วงครึ่งปีหลังจะออกงานต่อเนื่อง ถือว่าสร้างโอกาสให้กับบริษัทในการรับรู้ของแบรนด์ โดยเดือนกันยายนนี้ จะไปร่วมงาน Fine Food Australia 2025 เป็นงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม B2B ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในออสเตรเลีย เพื่อนำเสนอสินค้า ขยายฐานลูกค้า สร้างการรับรู้วงกว้างขึ้น
ส่วนเดือนตุลาคมจะเข้าร่วมงาน Anuga (อนูก้า) เป็นงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มใหญ่สุดในโลก นอกจาก นี้ ในประเทศเวียดนาม มีการจัดงานแสดงสินค้า Hyperion Annual Customer Event 2025 เป็นกิจกรรมพบปะลูกค้าประจำปี ซึ่งจะทำให้บริษัทสร้างความสัมพันธ์และรับรู้ความเคลื่อนไหวในตลาดดังกล่าว


