หุ้นพลังงาน-โรงกลั่นบวกคึก! รับราคาน้ำมันดิบพุ่งนิวไฮรอบ 7 สัปดาห์

หุ้นพลังงาน-โรงกลั่น” บวกคึก! นำโดย PTTEP-PTT-TOP-IRPC-SPRC รับราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์ หลังสหรัฐเผยสต็อกน้ำมันลดลงเกินคาด


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (25 ก.ย.68) ราคาหุ้นในกลุ่มพลังงาน-โรงกลั่นบวกคึก นำโดย บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP ณ เวลา 10:03 น. อยู่ที่ระดับ 116.00 บาท บวก 2.50 บาท หรือ 2.20% สูงสุดที่ระดับ 116.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 114.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 410.30ล้านบาท

บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ณ เวลา 10:05 น. อยู่ที่ระดับ 33.25 บาท บวก 0.25 บาท หรือ 0.76% สูงสุดที่ระดับ 33.25 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 33.00 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 33.64 ล้านบาท

บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP ณ เวลา 10:08 น. อยู่ที่ระดับ 36.00 บาท บวก 0.75 บาท หรือ 2.13% สูงสุดที่ระดับ 36.25 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 35.75 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 54.59 ล้านบาท

บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC ณ เวลา 10:11 น. อยู่ที่ระดับ 4.84 บาท บวก 0.12 บาท หรือ 2.54% สูงสุดที่ระดับ 4.84 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 4.74 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 20.23 ล้านบาท

บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC ณ เวลา 10:16 น. อยู่ที่ระดับ 1.20 บาท บวก 0.02 บาท หรือ 1.69% สูงสุดที่ระดับ 1.21 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 1.18 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 27.84 ล้านบาท

บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP ณ เวลา 10:24 น. อยู่ที่ระดับ 30.50 บาท บวก 0.25 บาท หรือ 0.83% สูงสุดที่ระดับ 30.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 30.25 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.34 ล้านบาท

บล.ดาโอ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ราคาน้ำมันดิบโลกปรับตัวขึ้นแรง หลังสหรัฐฯ รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังลดลงผิดคาด โดยสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวขึ้น 2.5% แตะ 69.3 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์ สะท้อนภาวะอุปทานที่ตึงตัว

ด้านสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบลดลง 0.6 ล้านบาร์เรล (WoW) ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2 ล้านบาร์เรล ขณะเดียวกัน สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 1.1 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันดีเซลลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล อีกทั้งราคายังได้แรงหนุนจากรายงานเหตุโจมตีโรงกลั่นน้ำมันในรัสเซียโดยยูเครน (อ้างอิง Reuters)

โดย DAOL ประเมินว่าปัจจัยดังกล่าวสร้างแรงบวกต่อทิศทางราคาน้ำมันดิบในระยะสั้น จากความกังวลเรื่องอุปทานโลกที่อาจได้รับผลกระทบจากความรุนแรงของสงครามรัสเซีย–ยูเครน อย่างไรก็ดี ราคายังคงมีความผันผวนสูง โดยบริษัทยังคงสมมติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบปี 2568 ที่เฉลี่ย 69 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลงจาก 79.8 ดอลลาร์/บาร์เรลในปี 2567 และคงคำแนะนำการลงทุน “เท่ากับตลาด”

สำหรับหุ้นเด่นที่ได้อานิสงส์เชิงบวกจากราคาน้ำมัน ได้แก่ PTTEP (ซื้อ/เป้า 130 บาท), SPRC (ซื้อ/เป้า 6 บาท), TOP (ถือ/เป้า 33 บาท) และ BCP (ถือ/เป้า 34 บาท) ซึ่งคาดว่าจะได้รับประโยชน์จากราคาขายเฉลี่ยที่ปรับขึ้น และโอกาสกำไรจากสต๊อกน้ำมันในระยะสั้น

ด้านบล.กรุงศรี ระบุว่าว่า ราคาน้ำมันดิบโลกยังคงปรับตัวขึ้น โดยน้ำมันดิบ Brent เพิ่มขึ้น 2.48% ปิดที่ 69.31 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และน้ำมันดิบ West Texas เพิ่มขึ้น 2.49% ปิดที่ 64.99 ดอลลาร์สหรัฐฯ

โดยแรงหนุนสำคัญมาจากข้อมูลของสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) ที่เปิดเผยว่าสต็อกน้ำมันดิบลดลง 607,000 บาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา สวนทางกับที่ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 800,000 บาร์เรล สะท้อนภาวะอุปทานตึงตัวมากกว่าคาดการณ์

บล.กรุงศรีมองว่าการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันเป็นปัจจัยบวกเชิงจิตวิทยาระยะสั้นต่อหุ้นพลังงานและโรงกลั่น โดยหุ้นที่คาดว่าจะได้อานิสงส์ชัดเจน ได้แก่ PTT, PTTEP และ TOP

Back to top button