สรุปปัจจัยสำคัญตลาดทุน-การเงิน-เศรษฐกิจวันนี้

– เงินเยนอยู่ที่ระดับ 11.28 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 112.70 เยน/ดอลลาร์

– เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1320 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1214 ดอลลาร์/ยูโร

– ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,380.20 จุด เพิ่มขึ้น 2.40 จุด หรือ 0.17% มูลค่าการซื้อขาย 47,662.61 ล้านบาท

– สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 894.86 ล้านบาท (SET+MAI)

 

– นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ 14 แห่งว่า ได้กำชับให้เร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณในช่วงไตรมาส 2 หลังจากการเบิกจ่ายงบประมาณไม่เป็นไปตามเป้า โดยเชื่อว่าหากเร่งรัดอย่างเต็มที่เม็ดเงินลงทุนในช่วงไตรมาสที่ 3 และไตรมาสที่ 4 จะไม่มีปัญหา และยังตั้งเป้าการเบิกจ่ายเม็ดเงินรัฐวิสาหกิจว่ายังเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้

– คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) มีมติคงช่วงเป้าหมายสำหรับอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (federal funds rate) ไว้ที่ระดับ 0.25-0.5% โดยยังคงนโยบายการเงินในลักษณะผ่อนคลาย ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการปรับตัวดีขึ้นต่อไปของภาวะตลาดแรงงานและการที่เงินเฟ้อจะปรับตัวสู่ระดับ 2% อีกครั้ง

– ธนาคารกลางจีนปรับเพิ่มค่ากลางเงินหยวนรายวันขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 1 สัปดาห์เมื่อเทียบกับดอลลาร์ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ปรับลดคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ซึ่งส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง โดยธนาคารกลางจีนได้ปรับเพิ่มค่ากลางเงินหยวนขึ้น 0.32% สู่ระดับ 6.4961 หยวนต่อดอลลาร์

– นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน เปิดเผยว่า จีนได้มีการริเริ่ม “เศรษฐกิจใหม่แนวคิดใหม่” เพื่อหนุนปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตใหม่ๆในการเปลี่ยนโฉมเศรษฐกิจในภาพรวม โดยเศรษฐกิจแนวคิดใหม่นี้ไม่ได้อยู่แค่ในรูปแบบของธุรกิจและอุตสาหกรรมเกิดใหม่ เช่น อีคอมเมิร์ซ คลาวด์คอมพิวติ้ง และ Internet of Things เพียงเท่านั้น แต่ยังพบเห็นได้ในภาคการผลิตอัจฉริยะ การผลิตตามคำสั่งขนาดใหญ่ ฟาร์มครอบครัว และสหกรณ์แบบถือหุ้นในภาคการเกษตร

– กระทรวงการคลังจีน เผยรายได้ด้านการคลังของรัฐบาลในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 6.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 2.74 ล้านล้านหยวน (4.213 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ขณะที่รายจ่ายด้านการคลังช่วงเดียวกันเพิ่มขึ้น 12% สู่ระดับ 2.12 ล้านล้านหยวน เนื่องจากรายได้ในโครงการบ้านเอื้ออาทรสำหรับผู้มีรายได้น้อยปรับตัวสูงขึ้น 30.7%

– กระทรวงการคลังญี่ปุ่น เผยยอดเกินดุลการค้าเดือนก.พ.อยู่ที่ระดับ 2.4277 แสนล้านเยน (2.2 พันล้านดอลลาร์) หลังได้รับแรงหนุนจากการร่วงลงของราคาน้ำมันดิบ ซึ่งช่วยให้การนำเข้าปรับตัวลดลง แม้ว่ายอดส่งออกยังคงซบเซาก็ตาม โดยญี่ปุ่นพลิกกลับมาเกินดุลการค้าในเดือนก.พ. หลังจากที่ขาดดุลการค้า 6.4877 แสนล้านเยนในเดือนม.ค.

ทั้งนี้ มูลค่าการส่งออกเดือนก.พ.ปรับตัวลง 4% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 5.70 ล้านล้านเยน ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 ขณะที่มูลค่าการนำเข้าร่วงลง 14.2% สู่ระดับ 5.46 ล้านล้านเยน ทำสถิติลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 14

– นายจอร์จ ออสบอร์น รมต.คลังของอังกฤษได้ปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศในช่วงอีก 4 ปีข้างหน้าลงระหว่างการแถลงงบประมาณเมื่อวานนี้ โดยปีนี้คาดว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจอังกฤษจะอยู่ที่ 2% ลดลงจากระดับ 2.4% ที่ประเมินไว้ในครั้งก่อน ส่วนอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 2560 ลดเหลือ 2.2% จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ 2.5% และคาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวในอัตรา 2.1% ในปีต่อๆไป

 

ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์